เมื่อวันที่ 23 ก.ค. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.  เปิดเผยว่า กทม.ได้จัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ หรือ Community Isolation เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีผลตรวจรับรองว่าติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มศักยภาพการดูแลรักษาผู้ป่วยตกค้าง รวมทั้งป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในพื้นที่ 6 กลุ่มเขต โดยมีเป้าหมาย 1 เขต 1 ศูนย์พัก ปัจจุบันมีศูนย์พักคอยฯ ที่พร้อมเปิดให้บริการรับผู้ป่วยแล้ว 23 แห่ง ในพื้นที่ 21 เขต สามารถรับผู้ป่วยได้จำนวน 3,390 เตียง

แบ่งเป็น กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ จำนวน 5 ศูนย์ รับผู้ป่วยได้ 718 เตียง กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง จำนวน 4 ศูนย์ รับผู้ป่วยได้ 572 เตียง กลุ่มเขตกรุงเทพใต้ จำนวน 3 ศูนย์ รับผู้ป่วยได้ 606 เตียง กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก จำนวน 4 ศูนย์ รับผู้ป่วยได้ 696 เตียง กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ จำนวน 4 ศูนย์ รับผู้ป่วยได้ 448 เตียง และกลุ่มเขตกรุงธนใต้ จำนวน 2 ศูนย์ รับผู้ป่วยได้ 270 เตียง (ข้อมูล ณ วันที่ 22 ก.ค. 64)

สำหรับศูนย์ที่ยังไม่เปิดให้บริการ เนื่องจากอยู่ระหว่างการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทั้งภายนอกและภายในของสถานที่ให้มีความเหมาะสม โดยศูนย์แต่ละแห่งต้องดำเนินการกำหนดสัดส่วนการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถเข้าดูแลผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย และต้องคำนึงถึงความสะดวกและสุขอนามัยที่ดีของผู้ป่วยทุกคนด้วย โดยจะมีการกำหนดจุดคัดกรองผู้ป่วย จุดวัดอุณหภูมิและวัดค่าออกซิเจน จุดบริการอาหารและน้ำดื่ม มีการติดตั้งเตียง จัดวางที่นอน

พร้อมตรวจสอบและติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบเสียงตามสาย ระบบรักษาความปลอดภัย CCTV ระบบอินเทอร์เน็ต ติดตั้งพัดลม ฉีดพ่นยากำจัดยุงลาย ทำความสะอาดห้องน้ำและห้องสุขา ความพร้อมของระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบกำจัดขยะทั่วไปและขยะติดเชื้อ ตลอดจนสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่เทศกิจและประสานสถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ร่วมดูแลความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อย

ซึ่ง กทม.จะทยอยเปิดให้บริการศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อที่เหลือภายในต้นเดือน ส.ค.นี้เพื่อขยายศักยภาพการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยจะทำให้มีศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อเพิ่มได้ถึง 53 แห่ง รวมจำนวน 6,013 เตียง สามารถรองรับจำนวนผู้ป่วยที่ไม่สามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องให้เข้าสู่กระบวนการดูแลรักษาที่เหมาะสม