ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 13 มี.ค. เวลา 21.00 น. “สิงห์สำอาง” เชลซี ที่กำลังมีปัญหาเรื่องเจ้าของสโมสรโดนอายัดทรัพย์ จะเล่นในสแตมฟอร์ด บริดจ์ เจอกับ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

โธมัส ทูเคิล กุนซือเชลซี ที่ชนะเกมลีกมา 4 นัดติด จะขาดเบน ชิลเวลล์ และ รีซ เจมส์ ที่บาดเจ็บ และต้องรอเช็คความฟิตของ คริสเตียน พูลิซิช, เซซาร์ อัซปิลิกวยตา และ มาร์กอส อลอนโซ ซึ่งยังไม่แน่ว่าจะลงกันไหวหรือไม่

คาดว่าอันเดรียส คริสเตนเซน อาจถ่างไปยืนแบ๊กขวา มาลอง ซาร์ ขยับไปยืนแบ๊กซ้ายหากอลอนโซฟิตไม่ทัน อันโตนิโอ รูดิเกอร์ เป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ ติอาโก ซิลวา แดนกลางมี มัตเตโอ โควาซิช, เอ็นโกโล ก็องเต และ จอร์จินโญ เกมรุกโรเมลู ลูกากู น่าจะเป็นแค่สำรอง ไค ฮาเวิร์ตซ์, เมสัน เมาท์ และ ฮาคิม ซีเย็ค จะออกสตาร์ตตัวจริง

เอ็ดดี ฮาว กุนซือนิวคาสเซิล ทีมกำลังผลงานดีไม่แพ้ใครเลยตั้งแต่ 19 ธ.ค. ชนะ 6 จาก 7 นัดหลังสุด โอกาสตกชั้นเริ่มไม่ต้องกังวลแล้ว แต่สภาพทีมยังมีนักเตะเจ็บทั้ง จามาล ลูอิส, คัลลัม วิลสัน, คีแรน ทริปเปียร์ และ ไอแซค เฮย์เดน แต่ บรูโน กีมาไรส์, อัลลัน แซงต์-มักซิแม็ง และ โจเอลินตอน น่าจะผ่านฟิตทั้งหมด

แผงหลังมีเอมิล คราฟต์, แดน เบิร์น, ฟาเบียน ชาร์, แมตต์ ทาร์เกตต์ ตรงกลาง กีมาไรส์, จอนโจ เชลวีย์ และ โจ วิลล็อค เกมรุก แซงต์-มักซิแม็ง กลับมาเป็นตัวจริง ประสานงานกับ คริส วูด และ จาค็อบ เมอร์ฟีย์

สถิติเจอกัน 10 นัดหลังสุด เชลซี เหนือกว่า ด้วยการชนะ 8 แพ้ 2 โดย 3 ครั้งหลังสุด เชลซี ชนะรวดชนิดไม่เสียประตู แต่นัดก่อนหน้านั้นนิวคาสเซิลเปิดบ้านชนะ 1-0 แฟรงค์ แลมพาร์ด เป็นผู้จัดการทีมเชลซีตอนนั้น

คู่อื่น 21.00 น. เอฟเวอร์ตัน – วูลฟ์ส, 21.00 น. ลีดส์ ยูไนเต็ด – นอริช ซิตี, 21.00 น. เซาแธมป์ตัน – วัตฟอร์ด, 21.00 น. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด – แอสตัน วิลลา, 23.30 น. อาร์เซนอล – เลสเตอร์ ซิตี