เมื่อวันที่ 12 มี.ค. จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพ หมอกควันไฟปริศนา ที่แผ่ปกคลุมถนนสายสระบุรี-หล่มสัก ซึ่งเป็นถนนสายหลัก บริเวณหน้าตลาดในเขตเทศบาลตำบลหนองไผ่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ในช่วงเวลากลางคืนอย่างหนัก จนแทบมองไม่เห็นทาง ทำให้ทัศนวิสัยของผู้ขับขี่รถยนต์ที่สัญจรวิ่งผ่านไปมาต่ำลง พร้อมกับระบุข้อความว่า “หนักเกินไปแล้ว…..” ลงในกลุ่ม ชมรม คนรัก หนองไผ่ ซึ่งหลังจากที่ได้มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ได้มีชาวโลกออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก พร้อมกับวอนหน่วยงานที่รับผิดชอบมาแก้ไข เนื่องจากแสบตา และทำให้เกิดอันตรายอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

นายสุนทร ยังสูงเนิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านเนินมะกอก ต.หนองไผ่ อ.หนองไผ่ เปิดเผยว่า วานนี้ (11 มี.ค.) ตนเองได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.หนองไผ่ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์  ให้ตำรวจดำเนินคดีกับ น.ส.วิยะดา รุ่งรัตน์ อายุ 31 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 9 ต.หนองไผ่ อ.หนองไผ่ ที่ก่อเหตุจุดไฟเผาเศษใบอ้อย ในพื้นที่ จำนวน 34 ไร่ จนเกิดหมอกควันไฟปริศนาหนาทึบ แผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งอำเภอ พร้อมทั้งเข้ารายงานให้ นายสมพงษ์ มหาวังษ์ นายอำเภอหนองไผ่ ได้รับทราบ และลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับอีกหลายหน่วยงาน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข มาตรา 74 มีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่น 5 พันบาท จำคุกไม่เกิน 3 เดือน นำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ต่อไป

ด้าน น.ส.วิยะดา รุ่งรัตน์ เจ้าของไร่อ้อยที่อ้างว่าจุดไฟเผาแค่เศษใบอ้อย ตนตั้งใจว่าจะเผาใบอ้อยที่กองอยู่เป็นจุดเล็กๆ ไม่คิดว่าไฟมันจะลามไวมาก และลุกลามไปทั่ว โดยตนได้พยายามดับแล้ว แต่ก็ดับไม่ทัน ไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ตนได้ร้องขอความช่วยเหลือแล้ว แต่ก็ไม่ทัน ขอโทษจากใจที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ต่อไปจะดูแลให้ดีไม่ให้เกิดขึ้นอีก และจะไม่จุดไฟเผาใบอ้อย จะหาวิธีกำจัดใบอ้อยด้วยวิธีที่ไม่ทำให้ใครได้รับความเดือดร้อนอีก

ด้านนายสมพงษ์ มหาวังษ์ นายอำเภอหนองไผ่ กล่าวว่า ทางอำเภอมีมาตรการอยู่แล้ว โดยมีการประกาศประชาสัมพันธ์จากผู้นำหมู่บ้านว่า ห้ามเผาในทุกกรณี แต่ถ้าหากมีความจำเป็น คนที่จะเผาก็ต้องแจ้งผู้นำหมู่บ้าน เพื่อให้มาควบคุมดูแลในการเผา ซึ่งช่วงนี้เราต้องดูว่า การประกาศประชาสัมพันธ์ทั่วถึงขนาดไหน