บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 11 มี.ค.65 ผันผวนแดนบวกและลบ โดยปิดตลาดภาคเช้าดัชนีปรับลดลงเล็กน้อย จากความกดดันในสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ล่าสุดส่อแววยืดเยื้อ และตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐยังสูงสุดในรอบ 40 ปี แต่ในช่วงบ่ายตลาดเริ่มปรับตัวกลับขึ้นมาจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่ราคาต่ำลงในช่วงก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,658.01 จุด เพิ่มขึ้น 10.93 จุด หรือ 0.66% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 78,505.61 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 618.54 จุด เพิ่มขึ้น 6.17 จุด หรือ 1.01% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3,868.09 ล้านบาท

รายงานข่าวจาก บลจ.เอ็มเอฟซี กล่าวว่า ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้านี้ คาดว่าความเสี่ยงรัสเซีย-ยูเครน ยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงอยากให้นักลงทุนติดตามการเจรจาอย่างใกล้ชิด โดยนักลงทุนที่รับความผันผวนได้ต่ำนั้น แนะนำให้ใช้จังหวะที่ตลาดปรับตัวลงนี้ ทยอยลดน้ำหนักหุ้นบางส่วนลง แต่ในระยะยาว 6-12 เดือนข้างหน้า เชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นจะกลับมาเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตราสารหนี้ หากเศรษฐกิจโลกไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย รวมไปถึงให้ติดตามผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มเติมด้วย

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.ปตท. ปิดที่ 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

2.ไทยน๊อคซ์ ปิดที่ 1.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

3.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 157.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

4.ทีทีเอ ปิดที่ 11.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.60 บาท

5.จุฑา ปิดที่ 1.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท