“ชื่อเดอะฮับ คาเฟ่ แอนด์ อีทเทอรี่ ความหมายตรงตัว คือ เป็นจุดศูนย์รวม ความตั้งใจของเราก็คืออยากให้ร้านแห่งนี้เป็นจุดศูนย์รวมของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน” ทิพ-ลัลนา ชุมสาย ณ อยุธยา มาร์เกตติ้ง คอมมูนิเคชั่น เมเนเจอร์ เผยถึงที่มาของชื่อร้าน ขณะนั่งสบายๆ ในช่วงเวลายามเช้าที่แสงแดดลอดรำไรผ่านห้องกลาสเฮาส์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมความอร่อยครบรสสไตล์โฮมเมด ตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวาน ที่มีมายาวนานกว่า 5 ปี ย่านพระรามเก้า 41
แรงบันดาลใจของการเปิดร้าน คุณทิพเล่าย้อนให้ฟังว่าเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ร้านอาหารที่อยู่ในเมืองหรืออยู่ใกล้เมืองและมีพื้นที่สีเขียวมีน้อย จึงอยากทำพื้นที่สีเขียวให้มันเพิ่มมากขึ้น จึงทำร้านนี้ขึ้นมาโดยยังคงความเป็นสีเขียวทั้งหมด ถ้าเข้ามาหากสังเกตดีๆ จะเห็นว่ายังคงรักษาต้นไม้เดิมไว้ทั้งหมด ใช้วิธีออกแบบโครงสร้างอาคารหลบเลี่ยงต้นไม้ เพราะฉะนั้นต้นไม้ใหญ่อย่างต้นจามจุรีอายุเกือบ 60 ปี ซึ่งมี 6-7 ต้น ล้วนเป็นต้นเดิมทั้งหมด ขณะที่ “เดอะฮับ คาเฟ่ แอนด์ อีทเทอรี่” ตั้งอยู่ในกลาสเฮาส์ เพราะอยากให้เข้ามาแล้ว ไม่ว่ามองมุมไหนก็เห็นสีเขียวทุกระดับสายตา
นอกจากจะเป็นศูนย์รวมของผู้คนทุกช่วงวัย ยังเป็นศูนย์รวมของธรรมชาติ แสงและเงาเวลานั่งอยู่ในร้านอาหารแต่ละช่วงเวลาจะเห็นโมเมนต์ของแสงและเงาที่แตกต่างไป ช่วงเช้าอาจได้เห็นแสงรำไร ช่วงเที่ยงแสงอาจจะแข็งขึ้นหน่อย แต่ไม่ร้อนมากเพราะได้ร่มเงาของต้นไม้ แต่จะมีแสงเงาของต้นไม้มากขึ้น หากมาช่วงเย็นจะเห็นแสงทไวไลท์ คุณทิพเล่าถึงความงดงามของธรรมชาติผ่านมุมมองสถาปัตยกรรม
สำหรับเมนูอาหารจะเป็นสไตล์ “ไทย-ฟิวชั่น” เน้นเป็นเมนูกินง่าย อาหารจานเดี่ยว สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ เปรียบเสมือนกับเราไปกินอาหารที่บ้านเพื่อน มีคุณแม่มาทำอาหารให้กิน ต้องเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพที่สุด สดที่สุด เพื่อให้กับลูก เพื่อนของลูก หรือของคนที่รักทุกคน นอกจากหน้าตาอาหารจะน่ารัก ตัวอาหารรสชาติอร่อยแล้ว เรื่องคุณภาพเป็นสิ่งหนึ่งที่ยังคำนึงให้ความสำคัญ ไฮไลต์ของเครื่องดื่มที่อยากแนะนำคือ “มะตูมไทยที” ก็คือชานมตามปกติ แต่จะเคี่ยวน้ำเชื่อมมะตูมใส่เข้าไปเวลาดื่มจะได้กลิ่นหอมของมะตูมเพิ่มมากขึ้น และตัวมะตูมเองยังมีคุณสมบัติแก้ร้อนใน กลายเป็นอีกเมนูที่เป็นเสน่ห์ของเดอะ ฮับ แอนด์ อีทเทอรี่
ด้านการครีเอทเมนูอาหารคาว จานซิกเนเจอร์ต้องยกให้ “ค็อค โอ แวง บล็องค์” หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า ไก่อบซอสไวน์ขาว จานนี้พื้นเพเป็นเมนูอาหารฝรั่งเศส หากนำมาดัดแปลงให้เข้ากับปากคนไทยมากขึ้น แต่สำหรับวันนี้อยากนำเสนอเมนูเส้นอย่าง “สปาเกตตีครีมไข่กุ้ง” ซึ่งกำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ สปาเกตตีครีมไข่กุ้งจะมีลักษณะคล้ายกับคาโบนาร่า แต่ฉีกความแตกต่างตรงเส้น เคลือบด้วยตัวครีมทำให้มีความหอมมัน เพิ่มความกรุบกรอบและรสชาติความมันขึ้นอีกระดับด้วยตัวไข่กุ้ง เพิ่มอรรถรสด้วยกุ้งย่างที่ปรุงรสด้วยกระเทียมพริกไทย คุณทิพเผยเคล็ดลับความอร่อย
ส่วนผสม มีดังนี้กุ้งขาว 4 ตัว, เส้นสปาเกตตี เบอร์ 2, พาเมซานชีส, หอมหัวใหญ่, โชยุ, ไข่กุ้ง, เกลือและพริกไทย เล็กน้อย วิธีทำ ตั้งกระทะ ราดน้ำมันมะกอก นำกุ้งประมาณ 4 ตัวลงย่างให้พอสุก ใส่หอมหัวใหญ่ พริกไทย เขย่าให้ส่วนผสมเข้ากัน ใส่พาสลีย์ลงผัด คีบกุ้งออกมาพักไว้ ใส่ครีมสดลงในกระทะเดิม ปรุงรสด้วยเกลือ คีบเส้นสปาเกตตีลงผัด ปรุงรสด้วยโชยุ 2 ช้อนชา พาเมซานซีส 2 ช้อนโต๊ะ ปิดไฟ ใส่ไข่กุ้ง โรยพาเมซานชีส และพาสลีย์ จากนั้นปาดซอสบาซามิกข้างจาน คีบกุ้งย่างวางทับ แล้วคีบเส้นสปาเกตตีใส่จาน โรยไข่กุ้ง ตกแต่งด้วยผัก พร้อมเสิร์ฟ.
‘ช้องมาศ’
