เมื่อวันที่ 10 มี.ค. สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ได้รับแจ้งจากหน่วยงานกำกับดูแลทางนิวเคลียร์ของประเทศยูเครน ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการแจ้งเหตุทางนิวเคลียร์โดยเร็ว ของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency, IAEA) และจากการแถลงข่าวของ IAEA เกี่ยวกับสถานการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์นิวเคลียร์ในประเทศยูเครน โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลา 11.22 น. ตามเวลาท้องถิ่น (16.22 น. ตามเวลาประเทศไทย) ได้เกิดกระแสไฟฟ้าดับภายในพื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล (Chernobyl) เนื่องจากโครงข่ายสายไฟฟ้าจากภายนอกได้รับความเสียหาย หลังจากกองกำลังทางทหารได้เข้ายึดครองพื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

2.IAEA ได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลทางนิวเคลียร์ของยูเครนแล้ว สรุปว่าการขาดการเชื่อมต่อกระแสไฟฟ้าจากภายนอกจะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบความปลอดภัยของสถานจัดการกากกัมมันตรังสี ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่จัดเก็บเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว ซึ่งยังมีปริมาณน้ำหล่อเย็นที่เพียงพอที่จะระบายความร้อนของเชื้อเพลิงนิวเคลียร์อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องจ่ายกระแสไฟฟ้า ในขณะเดียวกัน ได้มีการจัดเตรียมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบเครื่องยนต์ดีเซลและแหล่งไฟฟ้าสำรองมาใช้งานในกรณีฉุกเฉิน

3.อย่างไรก็ตาม การขาดกระแสไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยทางรังสีในการดำเนินงานที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล และสร้างความกังวลเพิ่มขึ้นให้แก่ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีการสับเปลี่ยนผู้ปฏิบัติงานจากกองกำลังทางทหาร ซึ่งควบคุมพื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลอยู่ในขณะนี้

4.นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา IAEA ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลระยะไกลของระบบการพิทักษ์ความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ (Nuclear Safeguards) เพื่อตรวจสอบวัสดุนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริเซีย (Zaporizhzhya) ซึ่งถูกกองกำลังทางทหารยึดครองอยู่ โดยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งสองแห่งมีวัสดุนิวเคลียร์จำนวนมากที่อยู่ในรูปของเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่มีการใช้งาน เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว และวัสดุนิวเคลียร์ประเภทอื่น

โดยระบบการพิทักษ์ความปลอดภัยทางนิวเคลียร์นี้ เป็นเครื่องมือที่ IAEA ได้ติดตั้งที่สถานประกอบการทางนิวเคลียร์ทั่วโลก เพื่อตรวจสอบและติดตามวัสดุนิวเคลียร์หรือกิจกรรมทางนิวเคลียร์ในสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ได้ตลอดเวลา เป็นการยืนยันการปฏิบัติตามพันธกรณีของสนธิสัญญาระหว่างประเทศในการใช้วัสดุนิวเคลียร์และเทคโนโลยีทางนิวเคลียร์เพื่อวัตถุประสงค์ในทางสันติเท่านั้น

5.ในขณะที่เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่มีการใช้งานอยู่ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้ง 4 แห่ง ในประเทศยูเครน มีจำนวนทั้งหมด 15 เครื่อง มีการเดินเครื่องตามปกติจำนวน 8 เครื่อง โดยระดับรังสีในพื้นที่ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อยู่ในเกณฑ์ปกติ ทั้งนี้ จากการที่แหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้าภายนอกได้รับความเสียหายบางส่วน ทำให้ต้องมีการสำรองแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าโดยเครื่องดีเซลเจนเนอเรเตอร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่เดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ต้องการให้สายไฟจากแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้าภายนอกได้รับการซ่อมแซมทันที 6.IAEA มีความกังวลต่อสถานการณ์ในปัจจุบันที่เกิดขึ้นในประเทศยูเครน อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย (Safety) ความมั่นคงปลอดภัย (Security) และการพิทักษ์ความปลอดภัย (Safeguards) รวมถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ดำเนินการอยู่และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลที่กำลังดำเนินการรื้อถอน ทั้งนี้ IAEA ได้ขอให้ทั้งสองฝ่ายยึดถือเสาหลัก 7 ประการในการดูแลด้านความปลอดภัยและความมั่นคงปลอดภัยสำหรับสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ที่ IAEA กำหนด

7.ปส. ได้ติดตามสถานการณ์ด้านนิวเคลียร์และรังสีในประเทศยูเครน รวมถึงได้ดำเนินการเฝ้าระวังภัยทางรังสีจากระดับรังสีและกัมมันตภาพรังสีในอากาศของประเทศไทยและทวีปยุโรปอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันยังไม่มีผลกระทบด้านนิวเคลียร์และรังสีต่อประเทศไทยแต่อย่างใด ทั้งนี้ ปส. จะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และจะมีการประกาศให้ทราบ หากมีสถานการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ในประเทศยูเครน นอกจากนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลจาก IAEA เพิ่มเติมได้ที่ www.iaea.org