นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษก ขบ. เปิดเผยว่า ช่องทางใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีที่สะดวกสบายที่สุดในขณะนี้ คือ ช่องทางรับชำระภาษีรถผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับสถิติการให้บริการชำระภาษีรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ประจำเดือน ม.ค.65 มียอดใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ผ่านทางเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th จำนวน 35,523 คัน ผ่านแอพพลิเคชั่น DLT Vehicle Tax จำนวน 7,788 คัน ผ่านตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) จำนวน 2,631 คัน ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส 14,391 คัน และผ่านแอพฯ mPAY และ Truemoney Wallet จำนวน 1,006 คัน

ส่วนสถิติการรับชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้น ที่ 1-5 มีผู้ใช้บริการจำนวน 394,654 คัน บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) จำนวน 73,048 คัน ที่ทำการไปรษณีย์ 1,274 คัน และธนาคารพาณิชย์ที่ร่วมโครงการ 23 คัน รวมมียอดผู้ใช้บริการชำระภาษีประจำเดือน ม.ค. 65 จำนวนทั้งสิ้น 530,338 คัน

นายเสกสม กล่าวต่อว่า ขบ. ได้พัฒนาช่องทางรับชำระภาษีประจำปีออนไลน์ เพื่อตอบสนองความต้องการประชาชนเจ้าของรถให้สามารถเข้าถึงช่องทางรับชำระภาษีรถประจำปีได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้จากจำนวนช่องทางให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบออนไลน์ อาทิ เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th, แอพฯ DLT Vehicle Tax, เคาน์เตอร์เซอร์วิส, โมบายล์แอพฯ mPAY และ Truemoney Wallet ที่อำนวยความสะดวกให้เจ้าของรถไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง ลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 อยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้รอรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันชำระเงิน

พร้อมทั้งได้พัฒนาให้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน, รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน, รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี รวมถึงรถที่ค้างชำระค่าภาษีประจำปีเกิน 1 ปี สามารถชำระภาษีผ่านช่องทางออนไลน์ได้ โดยต้องนำรถเข้าตรวจสภาพกับสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ให้เรียบร้อย ก่อนดำเนินการชำระภาษีประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์

นายเสกสม กล่าวอีกว่า ทั้งนี้สนับสนุนให้ประชาชนเจ้าของรถใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ โดยแนะนำให้ชำระภาษีรถประจำปีล่วงหน้า 90 วัน ก่อนวันสิ้นอายุภาษี ซึ่งจะตรงกับวันที่และเดือนในการจดทะเบียนรถครั้งแรก สามารถตรวจสอบวันครบอายุภาษีรถประจำปีได้จากคู่มือรถ เครื่องหมายการเสียภาษี หรือเข้าเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th เมนู สอบถามข้อมูลค่าภาษีรถประจำปี

สำหรับรถที่ค้างชำระค่าภาษีประจำปีเกิน 3 ปี นอกจากจะถูกปรับร้อยละหนึ่งต่อเดือน ยังส่งผลให้ทะเบียนรถถูกระงับ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนรถได้ ทั้งการโอนเปลี่ยนชื่อ แจ้งเปลี่ยนสี แก้ไขรายการคู่มือรถ เป็นต้น จึงขอให้เจ้าของรถดำเนินการชำระภาษีรถประจำปีให้เรียบร้อยเป็นปัจจุบัน ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าบริการชำระภาษีช่องทางออนไลน์จะได้รับความนิยมจากประชาชนเจ้าของรถอย่างต่อเนื่อง ด้วยขั้นตอนที่สะดวกสบาย และไม่ต้องเดินทางมาดำเนินการที่สำนักงานขนส่ง อยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้ ทั้งยังลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 อีกด้วย