วันที่ 8 มี.ค. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินในปี 65-67 ภายใต้กรอบวงเงินไม่เกิน 25,000 ล้านบาท ด้วยวิธีการจัดหาเงินกู้ในรูปแบบเทอมโลน หรือเงินกู้แบบมีระยะเวลา อายุไม่เกิน 3 ปี โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน หลังจากในปี 64 กฟผ.ประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง เพราะแบกรับภาระค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือค่าเอฟที ตามมาตรการของรัฐบาลในการตรึงราคาค่าไฟฟ้าเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน

ทั้งนี้ในปี 64 ที่ผ่านมา การผลิตไฟฟ้าของกฟผ.ในช่วงมาตรการตรึงค่าไฟฟ้านั้น มีต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) ในประเทศ ทำให้ กฟผ.ต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ดังนั้น กฟผ.จึงมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องให้เพียงพอต่อการดำเนินภารกิจความมั่นคงทางด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศและเป็นกลไกสำคัญของภาครัฐในการดำเนินมาตรการลดค่าครองชีพของประชาชน

อย่างไรก็ตามปัจจุบัน กฟผ.ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินการสูงมาก โดยมีรายจ่ายที่ต้องชำระเป็นค่าเชื้อเพลิง ค่าซื้อกระแสไฟฟ้า งบลงทุน และอื่นๆ ซึ่งมีกำหนดเวลาการชำระเงินที่แน่นอน และจากการตรึงค่าเอฟที ทำให้ กฟผ.ขาดสภาพคล่องในปี 65 แม้จะกู้เงินระยะสั้นแบบเครดิตไลน์ 3 ปีวงเงิน 10,000 ล้านบาทต่อปีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรองรับการดำเนินการของ กฟผ. ทำให้ กฟผ.จึงต้องกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินในปี 65-67 วงเงิน 25,000 ล้านบาท โดย กฟผ.ต้องเสนอแผนการกู้เงินที่ได้รับจาก ครม.แล้วต่อคณะกรรมการหนี้สาธารณะ เพื่อพิจารณาและจัดทำแผนการบริหารหนี้สาธารณะในช่วงเดือน มี.ค.65