นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษก ขบ. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่เกิดจากยานพาหนะในปัจจุบัน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ออกประกาศกำหนดมาตรฐานค่าควันดำใหม่ที่มีความเข้มงวดขึ้น และกำหนดให้มีการปล่อยควันดำได้น้อยลง ซึ่งจะเริ่มใช้เกณฑ์ใหม่ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. 65 เป็นต้นไปนั้น
ขบ. จึงปรับปรุงมาตรฐานการตรวจวัดค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกและกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ให้สอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐานค่าควันดำและวิธีการตรวจวัดที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนด และเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อให้เจ้าของรถ ผู้ประกอบการขนส่ง ทราบเกณฑ์มาตรฐานค่าควันดำใหม่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้ กรณีการตรวจวัดค่าควันดำด้วยเครื่องวัดควันดำระบบวัดความทึบแสง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดำสูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 จากเดิม ร้อยละ 45 หากทำการตรวจวัดควันดำด้วยระบบกระดาษกรอง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดำสูงสุดไม่เกินร้อยละ 40 จากเดิม ร้อยละ 50
นายเสกสม กล่าวต่อว่า ดังนั้น ก่อนเกณฑ์ค่าควันดำใหม่จะมีผลตามกฎหมาย ขบ. ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้ประกอบการขนส่ง เร่งตรวจเช็กสภาพรถของตนเองไม่ให้มีการปล่อยควันดำ ส่วนกรณีรถที่มีการปล่อยควันดำ ขอให้ดำเนินการแก้ไขและเพิ่มความเข้มงวดในการบำรุงรักษาเครื่องยนต์และระบบการทำงานต่าง ๆ เพื่อลดการปล่อยควันดำที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ เป็นสาเหตุหนึ่งของ PM 2.5 ทั้งนี้ ประชาชนและผู้ประกอบการขนส่งที่ต้องการตรวจสอบค่าควันดำรถของตนเองว่าอยู่ในเกณฑ์ใหม่ที่กำหนดหรือไม่ นำรถเข้ารับบริการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 สำนักงานขนส่งจังหวัด สำนักงานขนส่งสาขา และสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ทั่วประเทศ
ส่วนการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM 2.5 จากภาคการขนส่งตามนโยบายของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เช่น การออกตรวจวัดควันดำจากท่อไอเสียของรถบรรทุกและรถโดยสาร ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และเพิ่มความถี่ในการปฏิบัติงานออกตรวจวัดควันดำทั่วประเทศ โดยเฉพาะบนถนนสายหลักและสายรองที่เข้า-ออกกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. 65 จะเป็นไปตามเกณฑ์การตรวจควันดำใหม่เช่นกัน หากตรวจพบค่าควันดำเกินกำหนดจะลงโทษเปรียบเทียบปรับสถานหนักและสั่งห้ามใช้รถทันที ผู้ประกอบการขนส่งจึงต้องเพิ่มความเข้มงวดในการบำรุงรักษาเครื่องยนต์เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
นายเสกสม กล่าวอีกว่า สำหรับรถที่มีค่าควันดำเกินเกณฑ์มาตรฐานแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง หรือให้ช่างที่มีความชำนาญดำเนินการ หมั่นทำความสะอาดหรือเปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง กรองน้ำมันเครื่องตามระยะเวลา หรือเร็วกว่าสำหรับรถที่ใช้งานหนัก เปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิงตามที่ผู้ผลิตรถกำหนด ตรวจเช็กและปรับตั้งหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นละออง และมีแรงดันตามที่ผู้ผลิตกำหนด ปรับตั้งปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงและตั้งจังหวะการฉีดเชื้อเพลิงให้ถูกต้อง หลีกเลี่ยงการบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด ตรวจเช็กและซ่อมเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่เสมอ รวมถึงการปรับพฤติกรรมการขับขี่ที่อาจก่อให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา PM 2.5 ที่เกิดจากยานพาหนะ