ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหนองเมา ต.สระว่านพระยา อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ต่างพากันออกมารวมตัวที่สวนขนุนภายในหมู่บ้าน เพื่อออกหาจับตัวอ่อนจักจั่น นำไปประกอบอาหารและจำหน่ายหารายได้เสริมให้กับครอบครัว เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ตัวอ่อนของจักจั่น จะออกมาจากดินและไต่ขึ้นต้นไม้ เพื่อเตรียมที่จะลอกคราบ เพื่อกลายเป็นจักจั่นตัวเต็มวัย ติดปีกออกบินไปอาศัยอยู่ตามต้นไม้ใหญ่ต่อไป

นายวิเชียร ปะทังวา อายุ 47 ปี กล่าวว่า ในช่วงสามถึงสี่ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านในแถบนี้ จะรวมตัวกันออกมาหาจับจักจั่นตัวอ่อนที่จะพากันออกมาจากรู เตรียมที่จะลอกคราบออกบินในช่วงหัวค่ำไปจนถึงกลางดึก เพื่อนำไปประกอบอาหารรับประทานกันเป็นประจำ ซึ่งจักจั่นพวกนี้จะออกมาจากพื้นดินเพื่อลอกคราบในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคมของทุกๆปี หนึ่งปีจะมีให้จับเพียงประมาณสิบวัน ส่วนใหญ่จักจั่นจะอาศัยอยู่ภายในสวนขนุนที่มีการใช้สารเคมีน้อย และมีการให้น้ำตลอด จึงไม่ได้มีให้จับทุกสวน ชาวบ้านต้องอาศัยการสังเกตและเข้าไปจับให้ถูกสวน จึงจะพอได้จักจั่นกลับบ้าน โดยใช้ไฟฉายไปส่องตามโคนต้นขนุน แต่ละวันชาวบ้านก็ได้จักจั่นติดไม้ติดมือกันคนละ 1-2 กก. แล้วแต่ความชำนาญ ส่วนใหญ่ก็จะนำกลับไปประกอบอาหารรับประทานภายในครอบครัว แต่ใครชำนาญหรือหาจับเก่งก็จะนำไปจำหน่ายเป็นรายได้เสริม โดยราคานั้นถือว่าค่อนข้างดีมาก เพราะจำหน่ายกันที่ตัวละ 1 บาท เรียกว่านับตัวขายกันเลยทีเดียว แต่ละวันชาวบ้านจะรวบตัวออกตระเวนหาจับจักจั่นกันประมาณ 30-50 คน จนทำให้มีแสงไฟเต็มสวนขนุนเลยทีเดียว

สำหรับตัวอ่อนจักจั่นที่เตรียมลอกคราบนั้น จะยังไม่มีปีก ตัวจะนุ่มกว่าจักจั่นที่ติดปีกแล้ว ขนาดตัวจะประมาณเกือบเท่านิ้วโป้ง ทำให้สามารถนำทุกส่วนไปประกอบอาหารรับประทานได้ และให้รสชาติดี ส่วนใหญ่ก็จะนิยมนำไปทอดกรอบ บางคนก็จะนำไปแกงกับหน่อไม้ดอง หรือนำไปทำน้ำพริกรับประทานกับผักสด เป็นต้น