“บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ชุดสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของทีมนักกีฬาไทย ที่กำลังเตรียมความพร้อมลงแข่งขันว่า ขณะนี้ยังไม่พบนักกีฬามีปัญหาอาการบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมที่น่ากังวลใดๆ ทุกคนมีขวัญกำลังใจที่ดี ส่วนกรณีที่มีนักกีฬาต่างชาติ เริ่มเข้ามาพักในหมู่บ้านนักกีฬามากขึ้น และนักกีฬาต่างชาติบางคนอาจจะถอดหน้ากาก หรือไม่สวมหน้ากากบ้าง อย่างในหมู่บ้านนักกีฬา ถ้ามีเจ้าหน้าที่พบเห็นเจอก็จะเข้าไปเตือนให้สวมหน้ากาก แต่ที่สนามกีฬาบางแห่ง อย่าง ยิงเป้าบิน ที่ตนได้รับรายงานว่ามีนักกีฬาต่างชาติ ไม่สวมหน้ากากนั้น เรื่องนี้ก็จะมีการนำเข้าไปแจ้งในที่ประชุมหัวหน้านักกีฬา ซึ่งจะประชุมกันทุกวันเพื่อให้แต่ละประเทศได้มีความรอบคอบ ระมัดระวัง และเตือนนักกีฬาในด้านความปลอดภัยในจุดนี้อย่างเข้มงวดต่อไป

สำหรับนักกีฬาไทยเรามีการแจ้งและดูแลนักกีฬาในด้านนี้อย่างเคร่งครัดทุกวันรวมถึงนักกีฬาไทยเองก็มีความตื่นตัวและมีวินัยอย่างดีเยี่ยมมากๆ ทุกคนจะปฏิบัติตัวตามที่แพทย์ได้แนะนำอย่างดี ทั้งในหมู่บ้านนักกีฬาและที่สนามแข่งขัน โดยเฉพาะในหมู่บ้านนักกีฬา ทีมกองบัญชาการนักกีฬาไทย ก็จะพยายามให้นักกีฬาลดความเสี่ยงโดยการเข้าไปรับประทานอาหารในโรงอาหารให้น้อยที่สุด ด้วยการจัดอาหารเช้าให้นักกีฬา โดยจะจัดเตรียมไว้ที่กอง บก.นักกีฬา ทั้งแซนด์วิช แฮมเบอร์เกอร์ เครื่องดื่มต่างๆ ขณะที่มื้อกลางวัน นักกีฬาจะไปรับประทานที่สนาม ส่วนมื้อค่ำได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ที่จัดส่งข้าวกล่องอย่างดีมีอาหารหลากหลายและในปริมาณที่มากพอให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกวัน

แม่ทัพไทย ยังได้กล่าวถึงการชิงชัยเหรียญทองของนักกีฬาไทย ในวันแรก คือ วันที่ 24 ก.ค.นี้ ที่ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ความหวังของคนไทย ซึ่งจะลงแข่งขันในรุ่น 49 กก.หญิง ว่า หลังจากที่ได้ทราบข่าวว่ามีสื่อต่างชาติเสนอข่าวในกรณีที่ว่า พาณิภัค อาจจะไม่ได้เหรียญทองในประเภทนี้ ตนมองว่าเป็นเพียงแค่การวิเคราะห์ของสื่อ ซึ่งก็แล้วแต่สื่อไหนจะมีข้อมูลอะไร เรื่องนี้ถือว่าไม่ได้สร้างความหนักใจหรือความกังวลให้ทีมไทยแต่อย่างใด และคิดว่า พาณิภัค เองก็ไม่ได้กังวลในจุดนี้ ซึ่งจากการได้เจอน้องก็ยังมีความมุ่งมั่น โฟกัสอยู่ที่การแข่งขันอย่างเต็มที่และมีความมั่นใจในฟอร์มและความสามารถของตัวเองที่ได้มีการฝึกซ้อมและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี

“ผมไม่กังวลในเรื่องความพร้อมของพาณิภัค เพราะเท่าที่ได้คุยกันน้องเทนนิสก็มีความมุ่งมั่นมาก ทีมงานต่างๆ ก็ไม่อยากไปสร้างความกดดัน หรือเพิ่มความเครียดให้ เราอยากให้น้องลงแข่งขันด้วยความสบายใจที่สุด แต่สิ่งที่ทีมผมจะต้องเตรียมตัวคือการดูแลน้องที่สนาม โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินต่างๆ และทีมแพทย์ เพราะเทควันโด นักกีฬาจะไปแข่งขันที่สนามตลอดทั้งวันตั้งแต่ 9 โมงเช้าไปจนเกือบ 4 ทุ่ม ไม่สามารถออกไปไหนได้ เพราะฉะนั้นผมจึงได้วางแผนจัดเตรียมคนส่งอาหารและสิ่งจำเป็นในการแข่งขันไปให้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน”

“เรื่องการเข้าไปชมในสนามเนื่องจากโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้มีข้อจำกัดหลายอย่างนอกจากไม่มีผู้เข้าชมแล้ว จำนวนคนที่จะเข้าไปดูก็จำกัดอยู่เฉพาะคนที่เกี่ยวข้อง และบุคคลที่ได้เอดีการ์ดในระดับหัวหน้าทีมและวีไอพี ซึ่งต้องแจ้งขอเข้าสนามล่วงหน้าด้วยอย่างวันที่ 24 ก.ค.นี้ นอกจากผมแล้วก็จะมีท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงท่านเอกอัครราชทูตไทย และทีมงานอีก 2-3 คนเท่านั้น ส่วนนักกีฬาชนิดอื่นๆ ก็ไม่สามารถเข้าไปให้กำลังใจได้เลย ยกเว้นนักกีฬาเทควันโดเท่านั้น” บิ๊กต้อม กล่าว

พร้อมกันนี้ “บิ๊กต้อม” ได้กล่าวเชิญชวนให้แฟนกีฬาชาวไทยช่วยส่งแรงใจเชียร์และให้กำลังใจ พาณิภัค รวมทั้ง “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี จอมเตะรุ่น 58 กก.ชาย ในการลงสนามแข่งขันชิงเหรียญรางวัล จากกีฬาเทควันโดในวันที่24 ก.ค.นี้ ให้สามารถคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ให้วงการกีฬาไทยไปพร้อมๆ กันอีกด้วย