เมื่อวัน 5 มี.ค. ที่โรงเรียนชุมชนวังหลุมวิทยาคาร อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ดร.ชัยรัตน์ จำนงค์การ ที่ปรึกษา รมช.ศึกษาธิการ ฝ่ายปกครองท้องถิ่น อบต.) วังหลุม และตัวแทนจาก ส.ส.พรรคภูมิใจไทย พิจิตร เดินทางไปมอบชุดตรวจ ATK หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ พร้อมด้วยอุปกรณ์กีฬาและทุนการศึกษา ให้แก่นักเรียนในโรงเรียนชุมชนวังหลุมวิทยาคาร ตลอดจนโรงเรียนและสถานศึกษาสังกัด สพฐ. และ กศน. จำนวน 40 แห่ง โดยมี พระครูพิสิทธิ์ธรรโมภาส ดร. เจ้าอาวาสวัดต้นชุมแสง และรองเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งเป็นศิษย์เก่า กศน. และพระอธิการธงชัย ฉันทธัมโม เจ้าอาวาสวัดราฎร์เจริญ ร่วมพิธีด้วย

ภายหลัง ดร.กนกวรรณ กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) พิจิตร เขต 2 ที่ปรับรูปแบบการจัดการเรียนการสอน ให้เข้ากับสภาวะการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 6 อำเภอ เป็นอย่างดี ในรูปแบบการเรียนการสอนรูปแบบผสมผสาน แบบออนไลน์และออนไซต์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มนักเรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา รวมถึงผู้ปกครองของนักเรียนและประชาชนในพื้นที่

สำหรับวันนี้ตนและที่ปรึกษา รมช.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้ใหญ่ใจดีจากทีมงานพรรคภูมิใจไทยจังหวัดพิจิตร ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดการศึกษาในโรงเรียนและสถานศึกษา จึงได้นำชุดตรวจ ATK พร้อมหน้ากากอนามัย มามอบให้กับสถานศึกษาทั้ง 40 แห่ง แบ่งเป็น โรงเรียนประถมศึกษา สังกัด สพป.พิจิตร เขต 2 รวม 27 แห่ง และสถานศึกษาสังกัด กศน. รวม 13 แห่ง ที่จะเป็นด่านแรกในการสร้างความปลอดภัยและมั่นใจในการส่งบุตรหลานมาโรงเรียน ซึ่งประกอบด้วย ชุดตรวจ ATK. จำนวน 800 ชิ้น หน้ากากอนามัย จำนวน 50,000 ชิ้น เจลแอลกอฮอล์ จำนวน 4,609 หลอด พร้อมทุนการศึกษาอีกกว่า 20 ทุน รวมจำนวน 20,000 บาท ตลอดจนอุปกรณ์กีฬาฟุตบอลและฟุตบอลอนุบาล วอลเลย์บอล และตะกร้อ ตลอดจนชุดกีฬา แก่โรงเรียนชุมชนวังหลุมวิทยาคาร และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวังหลุม

จากนั้น ดร.กนกวรรณ ยังได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “บ้านต้นไม้เพื่อน้อง” โดยมี ดร.ชัยรัตน์ จำนงค์การ ที่ปรึกษา รมช.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยทีมงานพรรคภูมิใจไทย ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวังหลุมวิทยาคาร ครู และนักเรียน เข้าร่วม โดย “บ้านต้นไม้เพื่อน้อง” เพื่อนักเรียน และเยาวชนในชุมชน ตลอดจนชาวบ้าน ได้รู้จักการดูแลรักษาต้นไม้ใหญ่ ให้เป็นทรัพยากรอยู่คู่ชุมชน ไม่เพียงแต่ให้ร่มเงาหรือเป็นที่ปีนป่ายของเด็ก ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะกับออกกำลังกายด้วย.