“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” รายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาแกว่งตัวผันผวนในกรอบที่อ่อนค่า ขณะที่เงินดอลลาร์ มีแรงหนุนในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางสัญญาณตึงเครียดระหว่างยูเครน-รัสเซีย

ทั้งนี้สหรัฐ และอียูประกาศตัดรัสเซียออกจากระบบ SWIFT รวมถึงออกมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่อเบลารุส ซึ่งมีส่วนสนับสนุนรัสเซียบุกยูเครน ขณะที่กองกำลังทหารของรัสเซียยกระดับการโจมตีหลายเมืองในยูเครน และเข้ายึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียได้แล้ว

นอกจากนี้การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิพันธบัตรไทยของต่างชาติ 3.22 หมื่นล้านบาทในระหว่างสัปดาห์ด้วยเช่นกัน ทำให้ในวันศุกร์ (4 มี.ค.) เงินบาทปิดตลาดที่ 32.70 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 32.51 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (25 ก.พ.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (7-11 มี.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.40-32.80 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.พ. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือน ม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือน มี.ค.

ขณะเดียวกันตลาดยังรอติดตามการประชุม ECB จีดีพีไตรมาส 4/64 (final) ของยูโรโซน การกำหนดเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจจีนปี 2565 และตัวเลขเศรษฐกิจ อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวนและข้อมูลการส่งออกด้วยเช่นกัน