เมื่อวันที่ 22 ก.ค. นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย มีข้อความว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ให้สัมภาษณ์ส่งคำเตือนไปยังดารานักแสดง ทำนองว่า ดารานักแสดง อินฟลูเอนเซอร์ เป็นบุคคลสาธารณะที่ประชาชนรักและศรัทธา ขอความกรุณาอย่าใช้สิ่งเหล่านี้เคลื่อนไหวทางการเมืองโจมตีรัฐบาล เพราะสิ่งที่ทำเป็นการบิดเบือนข้อมูล เป็นการสร้างเฟกนิวส์ขึ้นในระบบโซเชียลมีเดีย ต่อมาพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ดาราที่เรียกร้อง (call out) กับเหล่าดาราที่ออกมาแสดงจุดยืนหรือแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมือง นั้น
สมาคมทนายความแห่งประเทศไทยขอเรียนว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย คณะรัฐมนตรีหรือรัฐบาลเป็นเพียงตัวแทนใช้อำนาจบริหารแทนประชาชนเท่านั้น ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจและเป็นผู้เสียภาษีให้รัฐบาลนำมาใช้จ่ายในการบริหารประเทศย่อมมีเสรีภาพที่จะวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ซึ่งกระทำได้ทั้งในรูปแบบการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายด้วยวิธีอื่น รวมถึงการ call out ดาราอันเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองให้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและแสดงจุดยืนของตน ก็ถือเป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญที่กระทำได้โดยชอบเช่นกัน การจำกัดเสรีภาพดังกล่าวกระทำได้เพียงอาศัยอำนาจตามกฎหมายที่ตราขึ้นเฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีงามของประชาชน หรือเพื่อป้องกันสุขภาพของประชาชนเท่านั้น (รัฐธรรมนูญมาตรา 34)
ดังนั้น การให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีและการที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ที่เรียกร้องให้ดาราออกมาเคลื่อนไหวแสดงจุดยืนและแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมือง จึงไม่สอดคล้องหรือขัดต่อรัฐธรรมนูญ สมาคมทนายความแห่งประเทศไทยจึงเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีและพนักงานสอบสวนได้เคารพ ในสิทธิและเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งพึงตระหนักว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหาการ แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของรัฐบาลซึ่งมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 55 ที่จะต้องควบคุม ป้องกัน รักษาพยาบาลและฟื้นฟูสุขภาพให้กับประชาชน การที่เศรษฐกิจของประเทศได้รับความเสียหาย รวมทั้งมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น จนล้นระบบสาธารณสุขเป็นเหตุให้ประชาชนไม่สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลจนถึงแก่ความตายบนท้องถนนตามที่เป็นข่าว จึงเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่ประชาชนมีสิทธิจะวิพากษ์วิจารณ์ได้ทั้งสิ้น
สมาคมทนายความแห่งประเทศไทยขอเรียนว่า การวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล หรือการวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์บ้านเมือง หรือการแสดงจุดยืนทางการเมือง ถือเป็นเสรีภาพและเป็นการติชมโดยสุจริตอันเป็นเสรีภาพของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ การจำกัดเสรีภาพดังกล่าวจึงกระทำไม่ได้ ไม่ว่าโดยองค์กร บุคคลหรือคณะบุคคลใดก็ตาม ทั้งนี้ สมาคมทนายความแห่งประเทศไทยพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือหรือบริการทางด้านกฎหมายแก่ประชาชนทุกคนที่ถูกละเมิดเสรีภาพ เพื่อปกป้องสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญต่อไป.