จากกรณี กกต. มีคำวินิจฉัยที่ 1274/2564 ซึ่งสรุปว่ามีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ภาค เพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาครใหม่ แทนนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ และสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายสุรวัช เรืองศรี ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 108 วรรคสอง รวมทั้งให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายสุรวัช เรืองศรี ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (1) ประกอบมาตรา 126 และให้ยกคำร้องผู้ถูกร้องที่ 3 และผู้ถูกร้องที่ 4 ตามที่ได้เคยเสนอข่าวไปแล้ว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 65 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้รับคำร้องของ กกต. เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลฯ แล้ว และมีคำสั่งให้นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวตามกระบวนการกฎหมาย รวมถึง รองนายก อบจ.สมุทรสาครทั้ง 2 คน

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 3 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเมืองสมุทรสาคร ก็ได้นำช่อดอกไม้มามอบเป็นกำลังใจให้กับ นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร แม้ว่าจะต้องเจอปัญหาและอุปสรรค์ต่างๆ มากมาย แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และจะได้กลับมาทำงานเพื่อคนสมุทรสาครต่อไป

ด้านนายอุดม เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้รับคำร้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ตนเองในฐานะนายก อบจ.สมุทรสาคร และรองนายก อบจ.ทั้ง 2 ท่าน ก็ได้หยุดปฏิหน้าที่ทันที และในวันที่ 28 มี.ค. นี้ ศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐาน ซึ่งเมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้ว ก็คงต้องรอว่าศาลจะนัดไต่สวนเมื่อไหร่ จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการไต่สวนในชั้นศาลอุทธรณ์ ซึ่งผมก็มีความพร้อมในเรื่องของพยานหลักฐานที่จะนำไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาล

นายอุดม กล่าวต่อว่า ในโอกาสนี้ผมต้องขอขอบคุณในทุกกำลังใจที่ส่งมาในทุกๆ รูปแบบ ซึ่งแสดงถึงความห่วงใยในตัวผม และในขณะเดียวกันผมก็ต้องกราบขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้การทำงานของนายก อบจ.สมุทรสาคร ต้องสะดุดไป การดูแลพี่น้องประชาชนก็อาจจะไม่ทั่วถึง ทั้งนี้จึงต้องขอขอบคุณและขอโทษมายังโอกาสนี้ แต่ผมเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตัวผมและทุกคะแนนเสียงที่พี่น้องประชาชนมอบให้ ซึ่งเป็นคะแนนแห่งความไว้วางใจและให้โอกาสได้ทำงานรับใช้ประชาชน

สำหรับที่มาในคำตัดสินของ กกต.ที่ชี้ให้ใบเหลืองแก่นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร นั้น สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ประมาณเดือน ต.ค.–พ.ย. 63 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งรายหนึ่งได้ติดต่อขอให้นายสุรวัช เรืองศรี (ผู้ถูกร้องที่ 2 อดีตผู้สมัคร ส.อบจ.เขต 5 กระทุ่มแบน ในนามผู้สมัครอิสระไม่สังกัดทีมใด) ช่วยฝากหลานเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในสังกัดของเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน ซึ่งนายสุรวัช ได้แนะนำให้พูดคุยกับบิดา และต่อมาปรากฏว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวสามารถนำหลานเข้าเรียนได้ตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จากนั้นผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวได้ส่งข้อความขอบคุณนายสุรวัช ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ที่นายสุรวัช และบิดาของนายสุรวัช ช่วยเหลือให้หลานสาวได้เข้าโรงเรียนตามที่ประสงค์ โดยปรากฏภาพการสนทนาที่นายสุรวัชได้นำไปโพสต์ในบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “สุรวัช เรืองศรี” เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย. 63

ซึ่งการที่นายสุรวัชโพสต์บทสนทนาระหว่างตนกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวในบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ได้ช่วยฝากหลานของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวเข้าโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว และขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวลงคะแนนให้แก่นายอุดม” ด้วยเหตุแห่งการกระทำของนายสุรวัช เช่นนี้ทำให้ กกต.พิจารณาเห็นว่า มีลักษณะเป็นการแสวงหาคะแนนนิยมจากประชาชนหรือสมาชิกในกลุ่มเฟซบุ๊ก ที่พบเห็นให้ลงคะแนนให้แก่นายอุดม จึงเข้าลักษณะเป็นการจัดทำ ให้ เสนอให้สัญญา ว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นายอุดม ซึ่งเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 65(1) โดยนายอุดมย่อมได้รับประโยชน์ในการเลือกตั้งจากการกระทำของนายสุรวัช เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรสาครในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนายอุดมเกิดจากการเลือกตั้งที่ไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรมตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสอง