นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ระบบการแพทย์ทางไกล หรือ เทเลเมดิซีน กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น หลังจากเทคโนโลสามารถช่วยตอบโจทย์การดูแลสุขภาพในยุคดิจิทัล ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล และแก้ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ในการดูแลสุขภาพที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางกลุ่มทรูจึงเดินหน้า สานต่อนวัตกรรม ทรู เฮลท์ แพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ ที่มีจุดเด่นบริการ โอทูโอ ที่เชื่อมโยงทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ ซึ่งล่าสุด ได้ปรับโฉมและอัพเกรดแอพพลิเคชั่นใหม่ “หมอดี” ในแนวคิด หมอประจำบ้านในมือคุณ ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถหาหมอออนไลน์ได้ทุกที่ มีบริการส่งยาถึงบ้าน และเคลมประกันกับพันธมิตรบริษัทประกันภัย โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ครบจบในแอพเดียว

“การลงทุนในแพทย์ออนไลน์ของโลกมีการเติบโตสูงขึ้น 28% ต่อปี ขณะที่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีการลงทุนถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตเพิ่มขึ้น 21% ซึ่งกลุ่มทรูในฐานะผู้นำด้านดิจิทัล จึงอยากนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนให้คนไทยสามารถเข้าถึงบริการการแพทย์และสาธารณสุขได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว ปนะหยัดเวลาในการเดินทาง และมีค่าบริการที่ไม่แพง โดยมีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญกว่า 500 คน ด้วยความร่วมมือกับชีวีบริรักษ์คลินิกเวชกรรม ครอบคลุมกว่า 20 สาขาเฉพาะทาง ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต รวมถึงคลินิกเฉพาะทาง อาทิ คลินิกภูมิแพ้ คลินิกไมเกรน และคลินิกสุขภาพจิต เป็นต้น”

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ทรู ดิจิทัล มีเป้าหมายในการพัฒนาแพลตฟอร์ม ทรู เฮลท์ และเปิดรับพันธมิตรชั้นนำ อาทิ บริษัทประกันภัย และผู้ให้บริการด้านสุขภาพ ที่จะร่วมกันบริการดูแลสุขภาพให้ครอบคลุมครบมากยิ่งขึ้น อาทิ บริการตรวจเช็กสุขภาพ บริการฉีดวัคซีนถึงบ้าน ตลอดจนการบันทึกข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล ซึ่งสอดรับกับเทรนด์ดิจิทัลเฮลท์แคร์ที่จะมีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเชื่อมโยงและเก็บข้อมูลสุขภาพจากอุปกรณ์ต่างๆ แบบเรียลไทม์ อาทิ สมาร์ทวอตช์ เซ็นเซอร์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อให้แพทย์ใช้ในการออกแบบการรักษา ตลอดจนการวิเคราะห์เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการเจ็บป่วยในอนาคต ช่วยให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้น และบุคลากรทางการแพทย์สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย.