เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 แถลงความคืบหน้าการประชุม กมธ.ว่า ขณะนี้การพิจารณาไปแล้ว 28 วัน รวม 250 ชั่วโมง มีหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณารวม 19 กระทรวง 23 กองทุน 2 กลุ่มหน่วยงาน คิดเป็น ร้อยละ 88.3 โดยในวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา พิจารณางบประมาณของสำนักนายกรัฐมนตรี 25 หน่วยงาน 2 กองทุน และงบกลาง 3 รายการ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การพิจารณาในส่วนของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้มี กมธ.สอบถามเกี่ยวกับการนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์ม ซึ่งราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ชี้แจงว่า งบประมาณในการจัดซื้อวัคซีนเป็นการของบสำรองจ่ายมาจากทรัพย์สินส่วนพระองค์ ปัจจุบันหน่วยงานมีการนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มจำนวน 3 ล้านโด๊ส และภายใน 2 สัปดาห์ จะได้รับการส่งมอบวัคซีนอีก 2 ล้านโด๊ส รวมทั้งสิ้น 5 ล้านโด๊ส

“หน่วยงานได้มีแผนดำเนินการเพื่อจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มจำนวนทั้งหมด 9 ล้านโด๊ส ภายในเดือน ก.ค.-ส.ค.64 โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดหาวัคซีนของหน่วยงานในครั้งนี้ คือ เพื่ออุดช่องว่างในช่องที่สถานการณ์ความต้องการวัคซีนในประเทศมีไม่เพียงพอ โดยมีแนวทางในการคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายเพื่อจัดสรรวัคซีน ได้แก่ ผู้พิการ พระ นักบวชทางศาสนา ผู้สูงอายุ และผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงการจัดสรรวัคซีนหลัก เช่น หญิงตั้งครรภ์” นายเรืองไกร กล่าว

นายเรืองไกร กล่าวว่า ในการพิจารณางบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้นมีข้อผิดปกติในส่วนงบการเงิน เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้ส่งงบการเงินที่เป็นรายงานผู้สอบบัญชีมาให้ ซึ่งตนกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้หารือกัน ปรากฏว่างบการเงินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อปี 63 เป็นงบที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไม่รับรอง โดยเขียนในรายงานว่าเป็นงบที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งตนค่อนข้างจะเห็นด้วยเช่นนั้น เพราะงบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขียนไว้ 214 หน่วยแล้ว นำมารวมกันที่ส่วนกลางทั้งหมด ซึ่งไม่น่าจะทำได้เนื่องจากขัดกับที่คณะกรรมการการป้องกันและปราบการการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ชี้มูลว่าจะฟ้องโรงพัก 396 แห่ง เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่งบการเงินมี 214 หน่วย เหตุใดจึงมีข้อแตกต่าง และยังมีการลงบัญชีงบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ามีรายได้สูงกว่าค่าจะใช้จ่ายสะสมเกือบแสนล้าน

นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการพิจารณางบของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และสถาบันพระปกเกล้า ตนนำแนวทางที่ กมธ.อยากได้ข้อมูล เช่น งบลับ งบของหน่วยงานต่างๆ งบจัดซื้ออาวุธ ที่เมื่อขอมาได้ยากก็อ้างว่าเงินเหล่านี้มาจากภาษีประชาชน แต่เมื่อตนขอบัญชีเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของ ส.ส.และ ส.ว.ทุกคนและผู้ติดตามอีก 8 คน รวมทั้งเบี้ยประชุมแต่ละปี เพื่อมาดูว่าได้เสียภาษีครบถ้วนหรือไม่.