นายภูวเมศฐ์ อัศวมงคลพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งของ จ.เชียงใหม่ ในปี 2565 พบว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสายสาขามีแนวโน้มลดลง โดยเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลมีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 105.971 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแม่กวงอุดมธารา 86.149 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จำนวน 13 แห่ง มีปริมาณน้ำรวม 72 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 57 ล้านลูกบาศก์เมตร และฝายแม่แตงมีปริมาณน้ำไหลผ่านฝาย 3.359 ล้านลูกบาศก์เมตรวินาที สำหรับแผนการใช้น้ำในช่วงหน้าแล้งปี 2565 พบว่า มีความต้องการใช้น้ำรวมทั้งสิ้น 236.49 ล้านลูกบาศก์เมตร แบ่งเป็นน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค 45.88 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำเพื่อการรักษาระบบนิเวศ 16.26 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำเพื่อการเกษตร 158.77 ล้านลูกบาศก์เมตร และน้ำสำหรับใช้ในด้านอื่น ๆ อีก 15.59 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ได้วางแผนการใช้น้ำไว้อยู่ที่ 103.94 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันมีการใช้น้ำไปแล้วถึง 111.45 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินกว่าแผนจัดสรรน้ำที่ตั้งไว้ โดยในส่วนของแผนการเพาะปลูกพืชในช่วงหน้าแล้ง 2564/2565 เดิมทีมีแผนเพาะปลูก 132,921 ไร่ แต่ปัจจุบันมีการเพาะปลูกไปแล้วทั้งสิ้น 169,291 ไร่ ซึ่งเกินกว่าแผนที่วางไว้เช่นกัน

สำหรับการเตรียมความพร้อมช่วยเหลือในช่วงหน้าแล้ง ทางชลประทานเชียงใหม่ ได้เตรียมเครื่องสูบน้ำไว้จำนวน 60 เครื่อง กระจายไปประจำจุดตามอำเภอต่าง ๆ เพื่อเตรียมใช้ในการสูบน้ำ ซึ่งปัจจุบันโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้มีการสูบน้ำเข้าพื้นที่เกษตรของเกษตรกร หมู่ที่ 6 บ้านพร้าวหนุ่ม ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จำนวน 200 ไร่ และหมู่ที่ 15 บ้านพุทธเอ้น ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม อีก 300 ไร่ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมและมาตรการอื่น ๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำ โดยได้มีการประชาสัมพันธ์และชี้แจงข้อมูลสถานการณ์น้ำและแผนการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง ปี 2564/65 ผ่านช่องทางต่าง ๆ พร้อมทั้งดำเนินการโครงการแก้มลิงที่อยู่ในเขตพื้นที่โครงการฯ เชียงใหม่และแม่แตง เพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้ำสำรองจำนวน 7 แห่ง ความจุเก็บกักรวม 3,959 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันได้ผันน้ำไปเก็บไว้แล้วปริมาณ 2,452 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณร้อยละ 62 ของความจุกักเก็บ ทั้งนี้ โครงการชลประทานเชียงใหม่ จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมถึงพี่น้องประชาชนทุกคนในการช่วยกันประหยัดน้ำ เพื่อให้มีน้ำใช้ที่เพียงพอตลอดช่วงหน้าแล้งที่จะถึงนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำหลายแห่งมีแนวโน้มลดลง และจะไม่มีฝนตกเพิ่มในช่วงเดือน มี.ค.นี้