นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า ได้เตรียมแผนงานและงบลงทุน 5 ปี (ปี 65-69) กลุ่ม ปตท. รวมกว่า  9.4 แสนล้านบาท  เพื่อดำเนินการตามกรอบ ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต ทั้งผลักดันประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ยกระดับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพระดับสากล เพื่อมาตรฐานชีวิตที่ดีของคนไทย สนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ  รวมทั้งสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ พร้อมกับการขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ เพื่อสร้างผลตอบแทนกลับคืนสู่ประเทศ โดยปี 64 กลุ่ม ปตท. ส่งเงินเข้ารัฐกว่า 82,500 ล้านบาท 

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานของ ปตท. ในปี 65 คาดว่า รายได้จะเติบโตมากกว่าปี 64 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2.2 ล้านล้านบาท เป็นการเพิ่มขึ้นตามสมมุติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ยปีนี้ อยู่ที่ระดับ 81-86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากปี 64 ราคาอยู่ที่ 69.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยตามแผนลงทุน 5 ปี ตามวิสัยทัศน์ใหม่ เช่น มุ่งสู่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและยานยนต์ไฟฟ้า รุกธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ เดินหน้าธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร

“ปตท. คาดว่า ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ภายใต้ความร่วมมือกับฟ็อกซ์คอนน์ จะตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย เพื่อเดินหน้าก่อสร้างโรงงานพัฒนาแพลตฟอร์มผลิตรถอีวีได้ และเริ่มการผลิตในปีไตรมาส 1 ปี67 กำลังผลิตเฟสแรก 50,000 คัน และผลิตเฟส 2 อีก 150,000 คันต่อปี ในปี 73 รวมถึงจัดตั้งบริษัท นูออโว พลัส เพื่อเป็นหลักขับเคลื่อนการลงทุนด้านแบตเตอรี่ของกลุ่ม ปตท. และปีนี้ ปตท. ยังมองโอกาสขยายการลงทุนทั้งการร่วมทุน การเข้าซื้อ หรือควบรวมกิจการอย่างต่อเนื่อง แต่จะเป็นธุรกิจใดนั้น หากมีความชัดเจน จะประกาศให้ทราบต่อไป” 

นอกจากนี้ ปตท. จะรุกธุรกิจใหม่ มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย และเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตสูงตามทิศทางโลก ด้วยการเข้าสู่ธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต โดยมี บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อส่งเสริมสาธารณสุขคนไทยให้มั่นคง ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา อินโนบิก ได้ร่วมนำเข้าและบริจาคยาเรมเดซิเวียร์ 12,000 ขวด และยาฟาวิพิราเวียร์ 1.2 ล้านเม็ด ให้กับประเทศเพื่อดูแลประชาชน โดยกลุ่ม ปตท. ยังมุ่งเข้าสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง (High Value Business) ต่อยอดจากธุรกิจปิโตรเคมีด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เสริมสร้างความแข็งแกร่งธุรกิจน้ำมันและเสริมสร้างธุรกิจไลฟ์สไตล์ ตลอดจนการเข้าสู่ธุรกิจโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน ระบบปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัล