นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขสลากราคาแพง เปิดเผยว่า ที่ประชุม รับทราบแนวทางแก้ปัญหาตามโรดแม็พของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และมีแนวทางให้ผู้ค้าสลาก ปรับมาขายสลากผ่านแท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน แทนสลากฯ ใบ เพื่อแก้ปัญหาการขายสลากฯ เปลี่ยนมือจนเกิดการเก็งกำไร โดยตั้งเป้าหมายจะขายผ่านระบบออนไลน์ให้ได้ทั้ง 100 ล้านใบ ซึ่งเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นภาระต่อผู้ขาย เพราะผู้ขายก็มีสมาร์ทโฟนอยู่แล้ว สามารถกดเลือกขายจากในแอพมือถือได้เลย โดยผู้ขายจะขายตรงไปถึงผู้ซื้อ
ส่วนการเปิดให้ตัวแทนจำหน่ายสลากฯ สมัครเข้าร่วมโครงการ สลาก 80 รวม 1,000 จุดทั่วประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติ คาดจะเริ่มเปิดงวดแรกได้วันที่ 2 พ.ค.65 ส่วนการเปิดรับลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งฯ ซึ่งมีผู้สมัคร 1 ล้านราย ในส่วนผู้ยังไม่เคยมีสิทธิ จะต้องตรวจสอบข้อมูลจาก กรมการปกครอง กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม กองทุนการออมแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รวมถึงโครงการรัฐ เช่น คนละครึ่ง มาใช้ประกอบการคัดกรองก่อน
ส่วนผู้ค้ารายเดิมที่มีสิทธิอยู่แล้ว จะจัดทำคิวอาร์โค้ดให้กับผู้ค้าเดิมไปติดที่แผง และให้ประชาชนที่ซื้อสลากฯ สแกนแจ้งข้อมูล เพื่อยืนยันว่าเป็นผู้จำหน่ายสลากตัวจริง รวมถึงจะตรวจสอบรายการซื้อ-ขายสลากฯ ผ่านระบบแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง และ ถุงเงิน ตลอดจนลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานภายนอกตรวจสอบ ขณะที่ผู้ค้าโควตา สมาคม องค์กร มูลนิธิ ที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา จะเข้าไปตักเตือนก่อน ทำผิดรอบสองจะตัดสิทธิครึ่งหนึ่ง และหากทำผิดซ้ำอีกจะตัดโควตาทั้งหมด
นอกจากนี้ ยังตั้งคณะอนุกรรมการ 3 คณะ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานเชิงรุก ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากฯ เกินราคา มีนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ และพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นรองประธาน คณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการทางกฎหมายในการแก้ไขปัญหาการเสนอขาย มีนายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ มีอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นประธาน