จากกรณี เจ้าของบ้านพักในพื้นที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี วอนฝ่ายงานรับผิดชอบเข้ามาช่วยเหลือเหตุกำแพงทรุด ทำให้ตัวบ้าน 6 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า หวั่นเกรงว่าสักวันบ้านที่อยู่จะทรุดพังถล่มลงมาเป็นอันตรายต่อคนในบ้าน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เจ้าของผวาดินทรุดกลางดึกบ้านถล่ม กางเต็นท์นอนหน้าบ้านพร้อมวิ่งหนี

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. นายประดิษฐ์ ใจยิ้ม อายุ 56 ปี หนึ่งในเจ้าของบ้านที่มีปัญหากำแพงทรุดตัว ได้ติดประกาศขายบ้านของตัวเองแล้ว โดยระบุว่า ตอนนี้ตนเครียดมาก เพราะปัญหากำแพงบ้านที่เกิดขึ้นแล้วหาผู้รับผิดชอบไม่ได้ ตนกลัวว่าต่อไปหน้าดินอาจจะพังทลายหนักกว่าเดิม ทำให้ครอบครัวเสี่ยงอันตราย จึงต้องติดประกาศขายบ้านดังกล่าว อย่างไรก็ตามในระหว่างนี้ ตนก็อยากให้ฝ่ายงานที่เกี่ยวข้องช่วยลงพื้นที่แก้ปัญหาอย่างจริงจังด้วย

ด้าน นายธนธฤต แร่ทอง อายุ 21 ปี เจ้าของบ้านอีกหลังที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า ตอนนี้กลัวมากและก็กังวล ต้องอยู่แบบหวาดระแวง เกรงว่าบ้านจะทรุดลงไปทั้งหลัง ยิ่งตัวบ้านมีรอยร้าวปรากฏขึ้นชัดเจน นอกจากนี้จะสังเกตได้จากหน้าบ้านทุกหลังมีการระเบิดหมด หรืออาการน้อยที่สุดเลยก็คือพื้นลานจอดรถจะเตี้ยลง บางหลังก็มีการรีโนเวทใหม่บ้าง แต่ตอนที่ตนจะมาซื้อบ้านหลังนี้ก็ได้มีการสอบถามจากเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ก่อน หลาย ๆ คนบอกว่ามันทรุดตั้งแต่ปีแรก พอผ่านไป 4-5 ปี ก็ทรุดลงเรื่อย ๆ ส่วนตนเองนั้นเพิ่งจะมาซื้อบ้านหลังนี้ได้เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น

“….คือ ตอนแรกที่มาซื้อสภาพก็ไม่ได้เป็นเหมือนตอนนี้ แต่ก็มีทรุดอยู่บ้าง จึงไปซื้อหินเอามาเก็บไว้ข้างบ้านเพื่อที่จะเอาไว้เติมเวลาบ้านทรุด แต่ตอนนี้กลับไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูที่บ้านของผมเลย เคยไปร้องไปศูนย์ดำรงธรรม สคบ.จังหวัดนนทบุรี ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นมีความคืบหน้า ตอนนี้เห็นแต่โยนความผิดให้กันไปมา ในฐานะของลูกบ้านก็เปรียบเหมือนเป็นคนกลาง เพราะเราไม่ได้เป็นคนสร้างบ้านเองแต่บริษัทเป็นคนสร้าง ก็อยากให้ผู้ใหญ่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาคุยกันเข้ามาไกล่เกลี่ยกัน และตรวจสอบว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรกันแน่ เจ้าหน้าที่ฝั่งไหนที่จะต้องมารับผิดชอบในเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่ใช่เอาแต่โยนกันไปโยนกันมา เพราะคนที่เดือดร้อนคือเราและลูกบ้านอีกหลายหลังที่กำลังกังวลและอยู่แบบหวาดระแวง….” นายธนธฤต กล่าว