นายอังกุช ภาร์ดวัจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาวดี เทเลคอม จำกัด หรือ คลาวดี ผู้พัฒนาระบบ และบริการ บนคลาวด์ เปิดเผยว่า คลาวดี ได้ปรับโครงสร้างบริษัท เพื่อตอบสนองความต้องการ ที่เพิ่มสูงขึ้นของภาคธุรกิจ และผู้บริโภคในประเทศไทย โดยผลวิจัยของการ์ทเนอร์ ระบุว่า ไทยมีแนวโน้มการลงทุนกับเทคโนโลยีคลาวด์ มูลค่า 34.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.2% ในปีนี้ และหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้กว่า 50% ของธุรกิจในไทย หันมาใช้บริการบนคลาว์ดเพิ่มขึ้น จึงตรียมนำเสนอบริการโซลูชั่นบนคลาวด์ ทั้ง วอยซ์ ซีอาร์เอ็ม, ออมนิชาแนล ซีอาร์เอ็ม พร้อมเครื่องมือระบบอัตโนมัติเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า และเสริมศักยภาพลูกค้าธุรกิจในไทยมากกว่า 600 ราย

“ที่ผ่านมาคลาวดี ประสบความสำเร็จ อย่างสูงในการนำเสนอแอพพลิเคชั่นเพื่อธุรกิจบนระบบคลาวด์ ที่สามารถยกระดับประสิทธิภาพการสื่อสารด้วยเสียงและการสื่อสารแบบหลายช่องทาง เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจ แก่ลูกค้าใน อุตสาหกรรมหลายประเภท ทั้งกลุ่มธุรกิจธนาคาร บริการทางการเงินประกันภัย, ภาคอุตสาหกรรม, ธุรกิจค้าปลีก, อีคอมเมิร์ซ, สินทรัพย์ดิจิทัล, อินชัวเทค และฟินเทค รวมถึงการนำเสนอแอพพลิเคชั่นเพื่อธุรกิจบนระบบคลาวด์ และบริการแก่ลูกค้ามากมาย อาทิ บิทคับ, กลุ่มอลิอันซ์, กลุ่มบริษัทบีทีเอส, ไลน์แมน และ วงใน ฯลฯ”

นายอังกุช กล่าวต่อว่า จุดเด่นของคลาวดี คือ ความยืดหยุ่นในการทำงานทางไกลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผ่านการเสริมขีดความสามารถของศูนย์บริการสายด่วนข้อมูล บริการเสียงตอบรับอัตโนมัติ เอไอ แชตบอต และระบบการบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า  (ซีอาร์เอ็ม) ทำให้บริษัทมีอัตราการเติบโตทะลุเป้าหมายที่ 70% ในปีที่ผ่านมา

“ผู้บริโภควันนี้ต่างคาดหวังให้บริษัทและแบรนด์ต่าง ๆ สามารถสื่อสารกับพวกเขาได้อย่างราบรื่นและผ่านทุกช่องได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ ที่ไม่สามารถตอบสนองลูกค้าที่ออนไลน์ตลอดเวลาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อาจทำให้จุดบริการแบบหลายช่องทางของบริษัทต้องถูกทิ้งร้าง ไม่มีคนไปใช้งานอีกต่อไป ทำให้อาจจะไม่สามารถ แข่งขันกับบริษัทอื่นที่ตระหนักถึงเรื่องนี้ได้”