บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 21 ก.พ. 65 เคลื่อนไหวในแดนลบ จากแรงกดดันของโควิดที่เร่งตัวขึ้น และการขายออกของหุ้นขนาดใหญ่ที่เคยปรับขึ้นมาในช่วงก่อนหน้านี้ รวมไปถึงปัจจัยความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน แม้จะมีความคืบหน้าว่านายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ยินดีเจรจากัน แต่มีเงื่อนไขว่ารัสเซียต้องไม่บุกโจมตียูเครน ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,694.32 จุด ลดลง 18.88 จุด หรือ 1.10% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 104,944.07 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอปิดที่ 644.77 จุด ลดลง 5.60 จุด หรือ 0.86% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9,688.20 ล้านบาท
รายงานข่าวจาก บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับ 1,700-1,690 จุด และ แนวต้าน 1,720-1,740 จุด โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4 ปี 64 ของไทย สถานการณ์โควิด-19 ทิศทางเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมไปถึงข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการผลิตเดือน ก.พ. ตัวเลขจีดีพีไตรมมาส 4 ปี 64 รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ม.ค. และปัจจัยต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เดือน ก.พ. ของจีน เป็นต้น
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 165.00 บาท ลดลง -4.00 บาท
2.ทรู ปิดที่ 5.10 บาท ลดลง -0.60 บาท
3.ซีพีออลล์ ปิดที่ 67.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
4.ไอวีแอล ปิดที่ 46.00 บาท ลดลง -3.75 บาท
5.ปตท. ปิดที่ 38.75 บาท ลดลง -0.75 บาท