“ช้างศึกหนุ่ม” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จะลงสนามพบ “ดาวทอง” เวียดนาม ในฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์อาเซียน รอบแรก กลุ่ม C นัดสุดท้าย วันที่ 22 ก.พ.65 เวลา 19.00 น. ที่ ปรินซ์ สเตเดี้ยม กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา รายการนี้ ไทยใช้นักเตะชุดอายุไม่เกิน 19 ปี เป็นหลัก ทั้งคู่ต่างมี 3 แต้ม ไทย ชนะ สิงคโปร์ 3-1 ส่วน เวียดนาม ชนะ สิงคโปร์ 7-0 โดยไทยต้องชนะ เพื่อเป็นแชมป์กลุ่ม การันตีการเข้ารอบ

ส่วนสถานการณ์การแย่งเข้ารอบรองชนะเลิศ ในกลุ่ม A ติมอร์เลสเต สร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบรองฯ หลังจากนัดล่าสุดชนะ กัมพูชา 1-0 คว้าแชมป์กลุ่ม มี 7 แต้ม รอบรองฯ รอพบอันดับ 1 กลุ่ม C ส่วนอันดับ 2 กัมพูชา เมื่อตัดผลการเจอกับทีมอันดับสุดท้ายคือ บรูไน ทำให้มี 3 แต้ม ยิง 1 เสีย 1 ซึ่ง กัมพูชา จะมาวัดคะแนนกับอันดับ 2 กลุ่ม C ดังนั้น หากไทย ตกมาที่ 2 แต่ถ้าแพ้ เวียดนาม ไม่เกิน 2 ประตู ก็เข้ารอบรองชนะเลิศอยู่ดี

ด้านความเคลื่อนไหวทีมชาติไทย เมื่อ 21 ก.พ.65 ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย กุนซือใหญ่ชาวสเปน นำนักเตะไปซ้อมช่วงเย็น ที่สนามอาร์มี เอฟซี กรุงพนมเปญ โดย กุนซือกระทิงดุ กล่าวว่า ทีมพร้อมแล้ว ซ้อมค่อนข้างดีและหนัก รวมทั้งไปดูฟอร์มเวียดนาม ที่พบสิงคโปร์ ตอนนี้มีวิธีการเล่นที่ชัดเจน ที่จะชนะเกมรับ และป้องกันการโต้กลับ จากที่ได้ประชุมกับทีม ได้ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกของเวียดนาม โดยมี หมายเลข 11 เหงียน วัน ตุง กับ หมายเลข 6 ดุง กวง โน เป็นคนสำคัญ ก็จะพยายามไม่เสียบอลในพื้นที่อันตราย เมื่อเสียพยายามกลับตำแหน่งเร็วสุด แม้โอกาสเข้ารอบมีสูง แต่ตอนนี้ตั้งสมาธิไปที่วิธีการเล่นในเกมกับ เวียดนาม เพื่อพัฒนาทีมชุดนี้ นัดนี้จะทำให้เต็มที่เต็มความสามารถ ให้แฟนบอลมีความสุข

ขณะเดียวกัน ฝั่งเวียดนาม มีรายงานว่า เจอโควิดป่วน ตอนนี้เหลือนักเตะแค่ 13 คน โดยวันที่ 21 ก.พ. มีผู้ติดเชื้อ 10 คน, ต้องสงสัย 1 คน และกักตัว 3 คน ซึ่งตามกฎแล้ว จะต้องมีนักเตะอย่างน้อย 14 คน ใน 1 แมตช์ ทำให้ เวียดนาม จะเรียก 6 นักเตะบินด่วนมากัมพูชา ในวันที่ 22 ก.พ.