เรือโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า เตรียมดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.ฉะเชิงเทรา ขอนแก่น และ นครราชสีมา ให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค พร้อมส่งเสริมบทบาทให้พื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ให้เป็นประตูการค้าของกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และ เวียดนาม  

กทท. ดำเนินการพัฒนาในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา หรือ Inland Container Depot (ICD) ฉะเชิงเทรา เป็นโครงการนำร่อง โดย กทท. ได้ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาท่าเรือบก เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามแผนแม่บทการพัฒนาท่าเรือบกของกระทรวงคมนาคม ซึ่งการประชุมคณะกรรมการฝ่ายบริหาร กทท. ครั้งที่ 7/2564 เมื่อวันที่ 1 ก.ค.64

มีความเห็นให้เชิญผู้แทนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะกรรมการร่วมบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาท่าเรือบก ได้แก่ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงคมนาคม สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมจัดทำแผนการพัฒนาท่าเรือบก ก่อนนำเสนอคณะกรรมการฝ่ายบริหาร กทท. พิจารณา ทั้งนี้แผนพัฒนาท่าเรือบก จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ระหว่างนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) กทท. พิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนเสนอกระทรวงคมนาคมให้ความเห็นชอบ ภายในเดือน ก.ค.นี้ 

เรือโทกมลศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้าคอนเทเนอร์รองรับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) สนข. ได้ดำเนินการศึกษาวิเคราะห์ความเหมาะสมทางวิศวกรรม เศรษฐกิจการเงิน และสิ่งแวดล้อม จัดทำแบบเบื้องต้น (Preliminary Design)

รวมทั้งรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมในการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้าคอนเทเนอร์ ที่ จ.ฉะเชิงเทรา หรือ ICD ฉะเชิงเทรา เพื่อรองรับการรวบรวมและกระจายสินค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) และประเทศกัมพูชา ผ่าน จ.สระแก้ว และเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าเข้าสู่พื้นที่โครงการพัฒนาอีอีซี และท่าเรือ 3 ท่า ได้แก่ ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ และท่าเรือมาบตาพุด เพื่อยกระดับโลจิสติกส์ของประเทศให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าที่ครบวงจร