นายอลัน เจียง กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย และภูมิภาคอินโดจีน บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า เอเซอร์ มีพันธกิจที่นอกเหนือจากความมุ่งมั่นในการเป็น Lifestyles Brands คือ Green IT การนำเสนอผลิตภัณฑ์ จากวัสดุรีไซเคิล และสร้างอีโคซิสเต็มส์ โดยเดินหน้าเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจของเอเซอร์ รวมถึงพาร์ทเนอร์อีโคซิสเต็มส์และความยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ Dual Transformation ช่วยให้ขับเคลื่อนธุรกิจคู่ขนาน เป็นมากกว่าคอมพิวเตอร์ ที่ขับเคลื่อนด้วยไอที โซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนอง Live, Work, Learn, Play ให้กับกลุ่มองค์กรธรุกิจและคอนซูเมอร์
ด้าน นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ในการเป็น Lifestyle Brands ของเอเซอร์ มุ่งมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นต่าง ๆ ด้วยการศึกษา ติดตามพฤติกรรม ไลฟ์สไตล์จากผู้ใช้งานและกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ จึงเพิ่มและขยายความชำนาญในนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการ มากไปกว่านั้นคือการสร้างความยั่งยืนของธุรกิจที่ครอบคลุมไปถึงพาร์ทเนอร์/อีโคซิสเต็มส์พาร์ทเนอร์ รวมถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมด้วย
ส่วนในมุมของธุรกิจได้พัฒนานวัตกรรมทางด้าน AI ด้วยแพลตฟอร์ม Altos AiWorks แพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อรองรับการเติบโตของเทคโนโลยี และดึงข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อยอดมาถึง Acer VeriSee DR ที่ได้รับความไว้ใจจากโรงพยาบาลกว่าร้อยแห่งในไต้หวัน ให้เป็นเครื่องมือในการวินิจฉัยและตรวจสอบโรคเบาหวานขึ้นตา และสำหรับในประเทศไทยขณะนี้ได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้เอเซอร์ยังได้พัฒนา Planet9 แพลตฟอร์มสำหรับอุตสาหกรรมเกมที่นอกจากช่วยในการฝึกซ้อม การจัดการแข่งขัน การจัด Ranking ของเกมเมอร์เพื่อพัฒนาในด้านต่าง ๆ ไปจนถึงการร่วมกับพาร์ทเนอร์ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับกิจกรรมอีสปอร์ต เพื่อต่อยอดไปสู่การเป็นอาชีพในอนาคต
ในด้านสิ่งแวดล้อม เอเซอร์ตระหนักและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก เราตั้งเป้าที่จะใช้พลังงานหมุนเวียนถึง 60% ในปี 2025 ควบคู่ไปกับการใช้วัสดุ PCR ในผลิตภัณฑ์หลักอย่างโน้ตบุ๊ก พีซี และมอนิเตอร์ จากการวางจำหน่าย Acer Vero โน้ตบุ๊กที่ผลิตด้วยวัสดุ PCR 30% ของตัวเครื่อง บรรจุภัณฑ์ผลิตจากระดาษรีไซเคิล ยอดขายของ Acer Vero ทำให้เราเห็นว่ากลุ่มผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกันกับเรา
ในขณะเดียวกันเอเซอร์เริ่มใช้วัสดุรีไซเคิลโดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบ และจัดทำผลิตภัณฑ์จากวัสดุรีไซเคิล สำหรับหน้าร้าน อาทิ กล่อง แท่นสำหรับจัดวางผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ตกแต่ง ในขณะเดียวกันขยะอิเล็กทรอนิกส์ (e-Waste) ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เอเซอร์ให้ความสำคัญ โดยตั้งจุดทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ ณ ศูนย์บริการเอเซอร์กว่า 33 สาขา ให้ผู้ที่ต้องการจะทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์มีจุดทิ้งที่ถูกที่ และมั่นใจว่าขยะเหล่านั้นจะได้รับการคัดแยกและทำลายอย่างถูกวิธี โดยตั้งเป้าจะขยายเพิ่มเติมในปี 2022.
