เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ น.ส.ภัทรานิษฐ์ ก่อกุศล หัวหน้าสำนักบ้านพักเด็กและเยาวชนจังหวัดชัยภูมิ ได้นำพ่อแม่ของ ด.ช.เอ อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 เข้าพบ ตำรวจ สภ.ชัยภูมิ เพื่อแจ้งความเอาผิด ผอ.ของโรงเรียนลูกชาย ที่ลงมือทำร้ายลูกชายด้วยการใช้มือทุบหลัง บิดพุง บิดหู หลายครั้งจนเป็นแผลอักเสบ ทั้งที่อยู่บริเวณหน้าเสาธงต่อหน้าเพื่อนนักเรียนจนทำให้เกิดความอับอาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ทางโรงเรียนมีพิธีไหว้ครู ด.ช.เอ ได้นำธูปไปไหว้ครู พร้อมกับเพื่อน ๆ แต่ต่อมาพบว่าธูปเทียนที่อยู่ในพานหายไป เหลือเพียงธูป 1 ดอกเท่านั้น เด็กชายเอจึงเอาไปให้กับครูประจำชั้น ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 11 ก.พ. ขณะ ด.ช.เอ เข้าแถวเคารพธงชาติ ผอ.ได้ประกาศเรียกให้มาหน้าเสาธง ก่อนลงโทษเด็กด้วยการทำร้ายร่างกายใช้มือบิดพุง บิดหู และทุบหลังจนเกิดบาดแผลฟกช้ำอักเสบ จนเด็กเกิดความอับอายไม่กล้าไปเรียน หลังเกิดเหตุเด็กได้แจ้งให้ผู้ปกครองทราบ จึงพาตัวไปรักษายังรพ.และเข้าแจ้งความเอาผิดผู้กระทำผิดดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ ทางผอ.ได้มาขอโทษผู้ปกครองยังบ้านพักแล้ว แต่ทางฝ่ายผู้ปกครองไม่ยินยอมเพราะเห็นว่า เป็นเรื่องที่เกินกว่าเหตุ และต้องการให้ฝ่ายงานเกี่ยวข้องย้ายผอ.โรงเรียนนี้ไปอยู่ที่อื่น

ด้าน น.ส.วี (นามสมมุติ) ครูประจำชั้นของ ด.ช.เอ กล่าวว่า ได้เตือน ด.ช.เอ แล้วว่าอย่านำธูปดอกเดียวมาไหว้ครู แต่เด็กบอกว่า ทำเล่น ๆ ก่อนมีท่าทีเยาะเย้ย ไม่สำนึก ตนจึงนำเรื่องไปบอก ผอ. กระทั่งเรียกไปทำโทษหน้าเสาธง หลังเกิดเรื่องได้เดินทางไปพบผู้ปกครองของเด็กและกล่าวขอโทษ แต่อีกฝ่ายยืนยันจะดำเนินคดีกับ ผอ.ให้ถึงที่สุด ซึ่งตนและ ผอ.ได้เข้าไปชี้แจงกับตำรวจแล้ว โดยผอ.ระบุว่า ได้ทำโทษเด็กจริง แต่ที่ทำไปเพราะต้องการสั่งสอนเด็กเท่านั้น ไม่ได้ทำไปเพราะความเกลียดชังแต่อย่างใด.