เมื่อวันที่ 14 ก.พ. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นเด็ก เยาวชนและประชาชนที่มีต่อวันมาฆบูชา ปี 2565  ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 16 ก.พ.2565 จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ 6,651 คน พบว่า ร้อยละ 66.61 เห็นว่า วันมาฆบูชามีความสำคัญ คือ เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรกในวันเพ็ญเดือน 3 รองลงมาร้อยละ 62.98 เป็นวันพระสงฆ์ล้วนเป็นพระอรหันต์มาชุมนุมพร้อมกัน 1,250 รูป โดยมิได้นัดหมาย ร้อยละ 54.19 มีการเผยแผ่หลักคำสอนของพระพุทธศาสนา คือ การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำกุศลให้ถึงพร้อม การทำจิตใจให้บริสุทธิ์  ขณะที่ร้อยละ 43.35 สนใจเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชาปีนี้ รองลงมาร้อยละ 39.87 ไม่แน่ใจแล้วแต่โอกาส และร้อยละ 16.78 ไม่สนใจเข้าร่วมเนื่องจากกลัวติดเชื้อโควิด-19 ไม่อยากออกจากบ้าน ไม่มั่นใจในมาตรการป้องกันโควิด-19 และเมื่อสอบถามถึงกิจกรรมเนื่องในวันมาฆบูชาที่สนใจอยากเข้าร่วม 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 ตักบาตรพระสงฆ์ อันดับ 2 ทำบุญ อันดับ 3 ลด ละ เลิก อบายมุข อันดับ 4 ฟังพระธรรมเทศนา และอันดับ 5 เวียนเทียน ส่วนรูปแบบการจัดกิจกรรมเนื่องในวันมาฆบูชาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระบุอันดับ 1 จัดกิจกรรมรูปแบบออนไลน์ อันดับ 2 จัดกิจกรรมทั้งรูปแบบปกติและรูปแบบออนไลน์ควบคู่กัน เมื่อถามว่าตั้งใจนำหลักธรรมใดมายึดถือปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ได้แก่ อันดับ 1 สติ อันดับ 2 ศีล 5 อันดับ 3 อริยสัจ 4 (ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค) อันดับ 5 อิทธิบาท 4 (ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา) และอันดับ 5 พรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา)

รมว.วัฒนธรรม กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามได้แนะนำเกี่ยวกับกิจกรรม ประเพณีทางพระพุทธศาสนาที่ควรสืบสานรักษาไว้ให้คงอยู่คู่สังคมไทย เช่น ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ ประเพณีและวัฒนธรรมในวันสำคัญของชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์  บุญประจำประเพณี เทศกาลต่าง ๆ ของท้องถิ่นและชาติ อาทิ สารทเดือนสิบฮีตสิบสอง ที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของประเพณีและวัฒนธรรมประจำชาติของพุทธศาสนิกชนคนไทย รวมทั้งการจัดกิจกรรมทำบุญ ตักบาตร เวียนเทียน ฟังธรรม เนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา