ที่หน้าโรงเรียนบ้านดาโต๊ะ หมู่ที่ 4 ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี น.ส.ณิชาวีร์ สะมะอูน ปลัดอำเภอยะหริ่ง นายเรวัต โพธิ์เรียง ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 นายอนันต์ แก้ววิเชียร ผอ.สำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำ ร่วมกันเปิดโครงการเจ้าท่าร่วมใจปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำ ลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ กว่า 1 แสนตัว เพื่อส่งเสริมฟื้นฟูระบบนิเวศ สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ตามแนวร่องน้ำธรรมชาติ ทำให้ปริมาณสัตว์น้ำเพิ่มขึ้น ชาวบ้านและประมงพื้นบ้านก็สามารถสร้างรายได้เลี้ยงชีพให้กับครอบครัว

สำหรับร่องน้ำลาโจ๊ะกู ร่องน้ำลาโจ๊ะ และร่องน้ำดาโต๊ะ เป็นร่องน้ำที่มีความสำคัญอย่างมากต่อคนในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง เป็นพื้นที่กักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร เพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และเป็นพื้นที่ระบายน้ำในฤดูน้ำหลาก อีกทั้งยังเป็นการสัญจรออกทะเลของชาวประมงอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้ประสบปัญหา ตะกอน และดินมีมาก ทำให้น้ำตื้นเขิน เรือสัญจรไม่ได้ เรือบางลำได้รับความเสียหาย อีกทั้งชาวบ้านหลายร้อยครัวเรือนไม่สามารถออกหาปลาประกอบอาชีพได้ แต่หลังจาก ทางสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4 สำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำ กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการขุดลอกร่องน้ำทั้งสิ้น 3 แห่ง ทำให้การสัญจรด้วยเรือดีขึ้น ชาวบ้านสามารถออกทะเลหาปลาได้ปกติ นอกจากนี้การขุกลอกร่องน้ำยังเป็นการพัฒนาและฟื้นฟูแนวร่องน้ำธรรมชาติ ให้เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้น ประชาชนได้มีสัตว์น้ำไว้บริโภค และสร้างรายได้ให้กับครอบครัวอีกด้วย

นายเรวัต เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการขุดร่องน้ำให้กับชาวบ้านมาโดยตลอด เพื่อให้ชาวบ้านออกเรือหาปลาได้สะดวก ไม่ใช่ต้องรอน้ำขึ้นน้ำลง นอกจากนี้การขุดร่องน้ำก็จะช่วยระบายน้ำในช่วงน้ำท่วม ให้ไหลลงไปสู่อ่าวปัตตานี ภายหลังจากกรมเจ้าท่าได้ทำการขุดร่องน้ำเสร็จสิ้น ระบบนิเวศกลับเป็นธรรมชาติแล้ว ก็ได้มีโครงการปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำลงสู่แม่น้ำเพื่อเพิ่มจำนวนกุ้งพันธุ์ในแม่น้ำ และยังเพิ่มแหล่งที่อยู่อาศัยสัตว์น้ำ ทำให้ประมงพื้นบ้านมีรายได้ และยังคงความอุดมสมบูรณ์ให้กับอ่าวปัตตานี

นายมะรอนิง สาและ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านชายแดนใต้ เปิดเผยว่า ตนหวังว่าการปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำในครั้งนี้ ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ตำบลแหลมโพธิ์จะได้รับประโยชน์อย่างมาก เชื่อว่าประมาน 7-8 เดือน กุ้งกุดำก็จะเจริญเติบโตขึ้น และชาวบ้านก็จะได้นำอวนมาดักกุ้ง จนสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยปกติกุ้งในธรรมชาติก็มีอยู่แล้ว แต่ถ้ามีหน่วยงานรัฐเข้ามาปล่อยเพิ่มก็จะทำให้มีกุ้งเพิ่มขึ้นอีก และเป็นโอกาสของชาวบ้านที่จะใช้ประโยชน์ในการหารายได้เลี้ยงชีพ

ที่ผ่านมา ทางภาครัฐที่ได้ดำเนินการขุดร่องน้ำนั้น ที่เดิมก็เป็นร่องน้ำอยู่แล้ว แต่ทุกปีก็จะเจอปัญหาการตื้นเขิน เนื่องจากบริเวณนี้มีตะกอน และขี้เลนมาก ทำให้เรือสัญจรได้ยากลำบาก กรมเจ้าท่าก็เห็นความสำคัญกับเรื่องนี้จึงได้มาขุดทรายออกไป ซึ่งเป็นประโยชน์มาก ถ้าไม่ขุดชาวบ้านก็จะออกเรือไปหาปลาไม่ได้ เพราะเรือจะติดเนินทราย และต้องเสียเวลา ชาวประมงบางรายเรือก็ได้รับความเสียหาย เช่นใบพัดเรือ ท้องเรือ ภายหลังจากกรมเจ้าท่าเข้ามาทำการขุดลอก ทำให้ชาวบ้าน ประมงพื้นบ้านสะดวกในการเดินเรือมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างก็เห็นด้วยและดีใจอย่างมากสำหรับโครงการขุดลอกร่องน้ำ ทำให้ชาวบ้านมีงาน มีอาชีพและมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัวอีกด้วย