ทำเอาหลายคนลุ้นกันไม่หยุดจริงๆ สำหรับเรื่องราวของสาว หญิง รฐา โพธิ์งาม ที่ล่าสุดหลายคนแอบสังเกตเห็นสาวหญิงดูมีน้ำมีนวลผิดปกติหรือเธอกำลังมีข่าวดีเรื่องลูกหรือเปล่า ล่าสุดเจอตัวสาวหญิงในงานรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์ One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ จึงไม่พลาดต้องอัพเดทเรื่องนี้ทันที พร้อมประสบการณ์การติดโควิดของสาวหญิงที่ดูหนักพอสมควร โดยสาวหญิงเล่าว่า
“เรื่องที่ดูมีน้ำมีนวล เอาจริงๆ ยังไม่มีค่ะ ยังไม่มีน้อง ณ ตอนนี้ที่ตรวจนะคะ ยังไม่มี (หัวเราะ) ยังไม่มีจริงๆ คือหญิงยังมีงานละครที่ต้องถ่าย ดังนั้นยังไม่มีค่ะ ตอนนี้เอาแพลนแต่งก่อน แต่งงานให้ได้ก่อน เนี่ยหลายคนนึกว่าแต่งไปแล้ว แต่จริงๆ ยังไม่ได้รดน้ำสังข์ ยังไม่ได้รับคำอวยพรจากผู้ใหญ่ใดๆ เลย รอเดี๋ยวนะคะ ประมาณพฤษภาคมค่ะ ไว้จะเชิญทุกคนอีกทีหนึ่ง จริงๆ มันยากมากเลยนะช่วงนี้ที่จะแพลนอะไร เพราะแอลกอฮอล์ก็ยังดื่มไม่ได้ และเราก็อาจจะต้องพลิกแพลนมาเป็นแบบจัดเช้ากลางวันไหม เนื่องจากเพื่อนๆ เรา (หัวเราะ) ไม่ใช่สายจิบชา แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ”
“เรื่องแขกที่มาก็ยังจำกัดค่ะเพราะจริงๆ ทางโรงแรมเขาก็ให้ถึงประมาณ 400-500 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หญิงก็ต้องขอดูอีกทีหนึ่ง เพราะหญิงเองก็กังวลเรื่องความปลอดภัย และก็ต้องมีการตรวจ ATK หน้างานด้วยเหมือนกัน แต่เอาจริงๆ นะคะ ในฐานะที่หญิงเคยติดมาแล้ว แค่ ATK มันไม่พอ เราเพิ่งหายจากโควิดถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่นะคะ จริงๆ หญิงต้องบอกก่อนว่า ในฐานะคนที่เคยติดโควิดมาล่าสุด หญิงเองก็อยู่ Hospital ประมาณ 5 วัน และก็กลับมากักตัวต่อที่บ้านอีก 5 วัน คือหญิงเจอกับผู้ติดเชื้อเมื่อวันที่ 11 มกราคม เป็นการเจอกันในกองถ่ายละคร และหลังจากนั้นประมาณวันที่ 13-14 หญิงก็ค่อยๆ มีอาการ อย่างเช่น เริ่มคันคอ เริ่มไอ จากนั้นก็มีอาการของไข้ต่ำๆ และก็คิดว่าตัวเองน่าจะมงลงแล้วแหละ ก็เลยไปตรวจ และได้ผลออกมาว่าใช่”
“เราถ่ายละคร แต่จริงๆ หญิงค่อนข้างดูแลตัวเองหนักมากเลยนะ เพราะว่าตั้งแต่มีโควิดมา 2 ปี หญิงก็ไม่เคยมงลงมาก่อน แต่สำหรับรอบนี้มันติดง่ายมาก เพราะนักแสดงคนแรกที่ติดกับหญิงเนี่ย คือเราสองคนแทบจะไม่มีซีนที่ต้องคุยกันเลย แต่ด้วยความที่เรามีโมเมนต์นั่งพักในห้องเดียวกัน ใช้แอร์ตัวเดียวกัน ฉะนั้นเลยนะคะ หน้ากากอนามัยสำคัญมาก ตอนรู้ว่าติดวันแรกเครียดค่ะ วันแรกร้องไห้ (ยิ้ม) คือเราไม่เคยเป็น และด้วยตอนที่ไปถึง Hospital มันไม่มีใครอยู่กับเราเลย เขาจะมีแค่เอกสารให้เราเขียน กับแจ้งว่าอาหารเช้าของเรามีอะไรบ้าง นอกเหนือจากนั้นเราต้องทำทุกอย่างเองหมด คือมันเป็นอะไรที่หดหู่นะ จนกระทั่งเข้าสู่วันที่ 2 วันที่ 3 หญิงก็เริ่มเห็นแล้วว่า อ๋อ ห้องอื่นๆ ก็มีคนเหมือนกัน เราก็ไม่ได้อยู่คนเดียว”
หญิง เล่าต่อว่า “ผมกระทบคือผมหญิงยังไม่ร่วงค่ะ ตอนแรกเพื่อนก็บอกเหมือนกันว่ามีนะเคสแบบนั้นแบบนี้ แต่ของหญิงเป็นยาฟาวิญี่ปุ่น คือหญิงเห็นโลโก้แบบญี่ปุ่นๆ อยู่ แต่ก็มีเรื่องของอาการไอค่ะ เพราะว่าเจ้าตัวไวรัสโควิดมันจะเข้าไปทำลายหลอดลม ดังนั้นเวลาที่หญิงพูด หญิงก็จะรู้สึกได้ว่ามันไม่เต็มเสียง มันจะมีความระคายคอ ซึ่งก็ต้องค่อยๆ ให้มันแข็งแรงขึ้นเอง อีกอย่างคือโดยปกติหญิงเป็นคนที่มักจะเป็นภูมิแพ้บ่อยอยู่แล้ว แค่กินน้ำเย็นหรือกินไอศกรีมหญิงก็ไอแล้วค่ะ ดังนั้นหญิงจึงต้องเลี่ยงทุกอย่างที่ทำให้มีอาการ รวมถึงอาหารจำพวกขนมหรือครีมก็ให้หยุดทานไปเลย เคสหญิงไม่ได้ลงปอดค่ะ เพราะหลังออกมาจากกักตัวหญิงก็วิ่งเลย โดยตอนแรกหญิงเริ่มวิ่ง 5 กิโลเมตร ซึ่งก็ไม่ได้รู้สึกนะคะว่ามันเหนื่อยกว่าปกติ คุณตุลย์เขารอดจากโควิดงงมาก (หัวเราะ) คือหญิงถ่ายละครไม่ได้ใกล้ชิดกับนักแสดง หญิงติด แต่พี่ตุลย์เขาอยู่กับหญิงในวันที่หญิงพีคที่สุด คือมีอาการ ไอ จาม เสมหะ ทุกอย่างเลย แต่ว่าเขาไม่ติด ตอนแรกก็ลุ้นมากว่าอยากให้เขาติด เขาจะได้มาอยู่ด้วยกัน จะได้มีเพื่อน (หัวเราะ)”
ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม realyingrhatha
