หลังจากที่ สมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย ได้ประกาศรายชื่อนักกีฬาบาสเกตบอลชาย จำนวน 38 คน เข้าเก็บตัวฝึกซ้อมและคัดเลือก เป็นตัวแทนทัพบาสเกตบอลทีมชาติไทย ทั้งประเภท 5×5 และ 3×3 ไปสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 12-23 พ.ค.65 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม และเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ระหว่างวันที่ 10-25 ก.ย.65 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน นั้น

ล่าสุด “เฮียต่าย” นิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลฯ เปิดเผยว่า สมาคมฯ เรียกนักกีฬามาเป็นจำนวนมากพราะกลัวว่าจะไม่ทั่วถึง เพราะต้องเตรียมความพร้อมทั้ง 2 มหกรรมกีฬา โดยเราจะใช้การแข่งขัน 2 รายการ ที่จบไปก่อนหน้านี้เป็นตัวชี้วัดฟอร์มการเล่นคือ “ไทยแลนด์ บาสเกตบอล ลีก” (ทีบีแอล) และบาสเกตบอลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประเภทดิวิชั่น 1 และการเรียกมาเยอะยิ่งจะเป็นการเปิดกว้างให้แก่นักกีฬาในทุกๆ ตำแหน่ง ซึ่งครั้งนี้สมาคมฯ นำสถิติของนักกีฬามาเป็นเครื่องชี้วัดแทนการจัดตั้งกันเองของผู้ฝึกสอนทีมชาติ

ส่วนปัญหาที่พบตอนนี้คือยังไม่แน่ใจว่าผู้เล่นที่ไปเล่นลีกอาชีพอยู่ต่างแดน จะกลับมาช่วยทีมชาติได้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ซีเกมส์ทำท่าว่าจะเลื่อนแข่งขันออกไป แต่สุดท้ายก็กลับมาจัดแบบฉุกละหุก ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดเผื่อเรื่องของสัญญานักกีฬาที่ไปแข่งขันต่างประเทศว่าจะให้กลับมาช่วยทีมชาติแข่งซีเกมส์ ได้ช่วงไหน ทำให้ “โอม” ชนาธิป จักรวาฬ เซ็นเตอร์ตัวหลัก ที่ไปแข่งลีกที่ไต้หวัน กับ ไทเลอร์ แลมบ์ ที่ไปสหรัฐอเมริกา น่าจะกลับมาช่วยทีมแข่งซีเกมส์ ไม่ได้แน่ๆ ส่วนเอเชี่ยนเกมส์ ชนาธิป น่าจะกลับมาช่วยได้ แต่ ไทเลอร์ คงชวดทั้ง 2 รายการ

อย่างไรก็ตาม ทีมไทยยังมี 3 ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน คือ “เฟรดดี้” เฟรเดริค ลิช, โมเซส มอร์แกน และ “จา” จากองมี มอร์แกน ซึ่ง 3×3 คงวาง 3 ลูกครึ่ง เป็นเมนหลัก บวกกับ “ปาล์ม” ปฏิภาณ กล้าหาญ ที่ได้ตำแหน่งนักกีฬายอดเยี่ยมจากทั้งทีบีแอลและดิวิชั่น 1 มาร่วมในทีม 3×3 ทดแทนชนาธิป ได้ ส่วน 5×5 ทางโอลิมปิคไทย มีนโยบายให้ลดจำนวนนักกีฬาลงจากสาเหตุการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้รวมทั้ง 2 ประเภท 5×5 และ 3×3 ทีมชาย คงส่งไปเพียง 12-14 คน เท่านั้น หมายความว่าตัวที่เล่น 3×3 ก็คงจะมาช่วย 5×5 ด้วย จึงไม่น่ามีปัญหาแต่อย่างใด

“ซีเกมส์ครั้งนี้ทีมชาย ผมมองไม่ออกจริงๆ ครั้งที่แล้ว 5×5 เราได้เหรียญเงิน ครั้งนี้ก็ต้องหวังเข้าชิงกับเต็งแชมป์ตลอดกาลอย่าง ฟิลิปปินส์ เช่นเดิม ส่วน 3×3 คราวที่แล้วเราได้แค่ที่ 4 ครั้งนี้ต้องพยายามทำให้ดีกว่าเดิม” เฮียต่าย กล่าว