นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ด กสทช.ในวันที่ 9 ก.พ.ทางสำนักงาน กสทช.จะยังไม่มีการนำเรื่องเสนอขอควบรวมกิจการ ของทรูและดีแทคมาแจ้งให้ทาง บอร์ด กสทช.ทราบ เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับการยื่นคำขอควบรวมของเอกชนทั้งสองบริษัท ส่งมายังไม่ครบถ้วน ทางสำนักงานฯจึงให้ทาง เอกชน กลับไปดำเนินการแล้วเสนอมาใหม่โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง รายชื่อบริษัทที่ปรึกษาอิสระ ที่เสนอมาเพียง 1  รายชื่อ แต่ทาง สำนักงาน กสทช.อยากให้มีมากกว่านั้น เพื่อสามารถพิจารณาเลือกที่เหมาะสมได้

“ตามขั้นตอนกระบวนการยื่นคำขอควบรวมคือ ทางเอกชนทั้งสองบริษัทต้องยื่นเรื่องพร้อมรายละเอียดการควบรวม และบริษัทที่ปรึกษาอิสระเพื่อมาทำรายงานวิเคราะห์ถึงผลกระทบ โดยทางสำนักงานฯจะเป็นผู้แต่งตั้งที่ปรึกษาอิสระ แต่เอกชนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย โดยต้องทำรายงานส่งสำนักงานฯภายใน 30 วัน เมื่อสำนักงานวิเคราะห์แล้ว ก็จะนำเสนอบอร์ดภายใน 60 วัน เพื่อทราบ แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องพิจารณา แต่เมื่อข้อมูลยังไม่ครบถ้วน ต้องกลับดำเนินการใหม่ แล้วจึงยื่นรายละเอียดต่างๆเข้ามาให้ทางสำนักงานฯพิจารณา ตามกระบวนการอีกครั้ง”

นายประวิทย์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะมีการนำเข้ามาแจ้งคณะกรรมการ กสทช.ช่วงไหนอยู่ที่เอกชน และการแต่งตั้งที่ปรึกษาอิสระของทางสำนักงาน กสทช. แต่ก็เชื่อว่าเอกชนได้รีบทำแล้ว จึงรีบส่งตั้งแต่ ม.ค.จากกำหนดเดิมที่เคยเป็นข่าว คือ ช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ หรือ มี.ค.65 อย่างไรก็ตามในช่วงระหว่างนี้ หากมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง กสทช ชุดใหม่ลงมา ก็จะเป็นหน้าที่ของ กสทช. ชุดใหม่จะดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป เว้นแต่หากเหตุการณ์ไม่ปกติ ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ ก็ค่อยว่ากันอีกครั้ง แต่ก็เชื่อว่าตามปกติในการดำเนินการพิจารณาเรื่องควบรวมของทั้งสองบริษัทนี้ คงไม่ทันการพิจารณาของ กสทช.ชุดรักษาการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งตามกระบวนการตามกฎหมายคือ 90 วัน ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีกสทช.ชุดใหม่ เข้ามาทำงานและพิจารณาเรื่องนี้แทน กสทช.ชุดรักษาการณ์แล้ว