ที่สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฏหมายและการบังคับคดีจังหวัดราชบุรี นายสุวิช ชูตระกูล อธิบดีอัยการภาค 7 พร้อมด้วย นายอังกูร ศีลาเทวากูล รอง ผวจ.ราชบุรี นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี และ พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ร่วมทำพิธีเปิดโครงการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนในวันหยุดราชการ พร้อมกับอีก 9 สำนักงาน ที่นำร่องในการเปิดโครงการนี้ ซึ่งมีนายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด เป็นประธานในการเปิดโครงการผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จาก จ.พระนครศรีอยุธยา

นายสุวิช กล่าวว่า นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด ได้เล็งเห็นว่ายังมีประชาชนบางส่วนเป็นจำนวนมาก เช่น ข้าราขการ หรือผู้ที่ทำงานประจำ อาจมีภาระหน้าที่ไม่สามารถลางานได้หรือไม่สะดวกที่จะมาขอรับคำปรึกษาหรือขอรับความช่วยเหลือในเวลาราชการปกติ ทั้งเป็นภารกิจเชิงรุกของสำนักงานอัยการสูงสุด ในปี 65 ที่มุ่งเน้นให้บริการและเป็นที่พึ่งทางกฏหมายของรัฐและประชาชน ดังนั้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้สามารถมาขอรับคำปรึกษาได้โดยไม่ต้องเดือดร้อนลางาน ทางท่านอัยการสูงสุดจึงมอบนโยบายให้สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯ เปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปในวันหยุดราชการเพิ่มเติม โดยเปิดให้บริการทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.30–18.30 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.65 โดยให้ดำเนินการในส่วนกลางและภูมิภาค รวม 10 สำนักงาน ได้แก่ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ พิษณุโลก ราชบุรี สุราษฎร์ธานี และสงขลา

ด้านนายธงชัย ศรีสวัสดิ์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฏหมายและการบังคับคดีจังหวัดราชบุรี ได้เปิดเผยว่า สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดราชบุรี เป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักงานอัยการสูงสุด มีหน้าที่ดำเนินงานตามนโยบายของสำนักงานอัยการสูงสุดในด้านการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนภายในเขตท้องที่จังหวัดราชบุรี ในด้านการให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายแก่ประชาชน โดยมีพนักงานอัยการ นิติกร และทนายความอาสา คอยช่วยเหลือให้คำปรึกษาและให้คำแนะนำแก่ผู้ที่มีปัญหาขัดข้องเกี่ยวกับกฎหมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว ทรัพย์สิน หรือมรดก การให้ความช่วยเหลือในการจัดทำนิติกรรมและสัญญา แก่ประชาชนที่ยากจน โดนนิติกรรมสัญญานั้นจะต้องเป็นไปด้วยความเป็นธรรม และไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย การให้ความช่วยเหลือในการประนอมข้อพิพาท เพื่อให้คู่ความสามารถยุติข้อพิพาทได้โดยไม่ต้องนำคดีไปฟ้องร้องต่อศาล เป็นการลดปริมาณคดีที่จะขึ้นสู่ศาล โดยมีพนักงานอัยการเป็นคนกลางในการช่วยเหลือเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญญา และการให้ความช่วยเหลือทางด้านอรรถคดี เช่นการยื่นคำร้องขอจัดการมรดก ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้บุคคลเป็นคนไร้ความสามารถและตั้งผู้อนุบาล ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถและตั้งผู้พิทักษ์ ยื่นคำร้องขอตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์ หรือให้ความช่วยเหลือด้านทนายความให้ยื่นฟ้องคดีแพ่งให้ผู้ร้อง

โครงการนี้เป็นการเพิ่มช่องทางการติดต่อขอรับความช่วยเหลือแก่ประชาชนให้มากยิ่งขึ้น ทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกไม่ต้องเสียเวลามาติดต่อในวันทำงานปกติ อีกทั้งยังเป็นการให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น การจัดการมรดก ทางสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯ ได้ให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การจัดทำคำร้อง ยื่นคำร้อง ดำเนินการกระบวนการพิจารณาในศาล โดยไม่คิดค่าบริการ ทำให้ผู้ร้องไม่ต้องเสียเงินค่าว่าจ้างทนายความ อันเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายและแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ซึ่งจะมีพนักงานอัยการ นิติกร และเจ้าหน้าที่ ประจำอยู่ที่สำนักงานตลอดทั้งวันเหมือนวันทำการปกติ