เมื่อวันที่ 6 ก.พ. นายเศรษฐศิษฎ์ ณุวงค์ศรี ประธานเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย (ค.ร.อ.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ตนได้รับทราบว่า นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ได้จัดทำประกาศสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เรื่องการยุบเลิกสํานักบริหารงานบุคคลและนิติการ (สบน.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สอศ.ตั้งขึ้นสมัยอดีตเลขาธิการ กอศ.คนก่อน ซึ่งการจัดตั้งสำนักดังกล่าวอดีตเลขาธิการ กอศ. ให้เหตุผลว่าสำนักอำนวยการ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องของการบริหารงานบุคคลและนิติการ มีภารกิจและปริมาณงานมาก เพื่อให้การบริหารงานด้านบุคคลและงานด้านนิติการของสอศ.เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อราชการ จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 28 และมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 ให้จัดตั้งสำนักการบริหารบุคคลและนิติการขึ้น เป็นหน่วยงานภายในของ สอศ. และให้โอนบุคลากรผู้ปฏิบัติงานและอำนาจหน้าที่ของสำนักอำนวยการในเรื่องพัฒนาระบบงานและการบริหารงานบุคคล และการดำเนินการเกี่ยวกับการส่งเสริมวินัยและระบบคุณธรรมกฎหมายนิติกรรมสัญญางานเกี่ยวกับความรับผิดทางแพ่งอาญางานคดีปกครองและงานอื่นที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาไปกำหนดและเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานบริหารบุคคลและนิติการ ท่ามกลางเสียงทักท้วงของหลายฝ่ายว่าอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะอำนาจตามมาตรา 28 และมาตรา 30 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 นั้นเป็นการให้อำนาจเลขาธิการเพื่อบริหารงานทั่วไป ไม่ใช่อำนาจในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎกระทรวง หรือประกาศตั้งสำนักใหม่ขึ้นมา และหลายฝ่ายยังมีความห่วงใยว่าอาจใช้อำนาจเพื่อวัตถุประสงค์แอบแฝงอื่นซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้

ประธานเครือข่าย ค.ร.อ.ท. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ขอฝากไปถึง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ได้ช่วยตรวจสอบการใช้อำนาจที่ไม่ชอบของสำนักนี้ที่มีการแต่งตั้งบุคลากรไว้ด้วย เพราะหากมีความประพฤติมิชอบจากการที่ตั้งสำนักบริหารงานบุคคลและนิติการ ที่ไม่ถูกต้องในช่วงที่ผ่านมาก็อยากให้ รมว.ศธ. ดำเนินการสร้างหลักธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้นด้วย