“บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ นายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การแข่งขันยิงปืน รายการ “ISSF Grand Prix Rifle/Pisto” ครั้งที่ 1 ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 8-18 ก.พ.นี้ นั้น สมาคมฯ จะส่งนักยิงปืนทีมชาติไทย เข้าร่วมแข่งขันรวม 12 คน ประกอบด้วย เจเดน เหมาะประสิทธิ์, ชิดชนก หิรัญเพิ่ม, เณศรา จำปารัตน์, ธันยพร พฤกษากร, สุภมาส วันแก้ว, ธัญลักษณ์ โชติพิบูลย์ศิลป์, นภิศ ต่อตั้งพานิช, เตวิช ตู้ทวีทรัพย์, ทัตสุระ บรรพวีระชน, ราม คำแหง, ชวกร ตรีนิภากร และทองผาภูมิ วงศ์สุขดี โดยมี ผ.ศ.ทศพร เหรียญเจริญ เป็นผู้จัดการทีม, ภัสสรณัฐ หงส์ประเสริฐ, วาเลนตินา ชูนิกินา และ อีวาน ชาคอฟ ผู้ฝึกสอนชาวยูเครน คุมทีมไป

ล่าสุด นักกีฬาทั้ง 12 คน ทั้งประเภทปืนสั้นและปืนยาว ได้แยกกันซ้อมเสมือนแข่งขันจริง ที่สนามซ้อมของสมาคมฯ ระยะ 25 เมตร และ 50 เมตร โดยรายการกรังด์ปรีซ์ครั้งนี้ นักแม่นปืนไทย จะต้องลงแข่งขันครบทั้ง 6 ประเภท คือ ปืนอัดลมชาย, ปืนอัดลมหญิง, ปืนยาวชาย, ปืนยาวหญิง, ปืนสั้นสตรี 25 เมตร และปืนสั้นยิงเร็วชาย 25 เมตร รวมทั้งลงแข่งขันประเภททีมด้วย

นายสกล กล่าวต่อว่า นักกีฬาชุดนี้เป็นชุดที่ผ่านการคัดเลือกเพื่อเตรียมเข้าร่วมแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม ในเดือน พ.ค.นี้ ดังนั้นการส่งไปเข้าร่วมแข่งขันกรังด์ปรีซ์ ถือว่าส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ทั้งเรื่องสภาพของจิตใจและสมาธิ อีกส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการวัดความแม่น ทดสอบศักยภาพของแต่ละคน โดยนำเอาผลคะแนนเป็นดัชนีชี้วัด ซึ่งเราหวังอย่างน้อยต้องได้ 3 เหรียญทอง และหลังจากนักกีฬาเดินทางกลับมาไทยแล้ว จะต้องกลับมาคัดเลือกชุดซีเกมส์ ระหว่างวันที่ 22-24 ก.พ.นี้ อีกครั้ง เพื่อเฟ้นหาคนที่มีความแม่นที่สุดเป็นตัวแทนทีมชาติไทย ดังนั้นทุกคนจะต้อง “คอนโทรล” ตัวเองให้นิ่งที่สุด หากกรณีที่มีนักกีฬาทีมชาติชุดเก่า ยิงไม่ดี มีคะแนนแพ้ดาวรุ่ง ก็ต้องว่ากันตามหลักเกณฑ์ โดยไม่มีการให้อภิสิทธิ์ผู้ใดทั้งสิ้น