เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลนิธิเมาไม่ขับ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จัดเวทีสาธารณะ “หมอกระต่าย ต้อง(ไม่)ตายฟรี” ภายหลังเกิดเหตุ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ขี่รถบิ๊กไบค์พุ่งชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ “หมอกระต่าย” จักษุแพทย์อนาคตไกล ขณะข้ามทางม้าลายหน้าสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท เสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 ม.ค.
นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เสนอแนวคิดขอให้วันที่ 21 ม.ค.เป็นวันแห่งความปลอดภัยบนท้องถนน เนื่องจากมีข้อมูลเดือน ม.ค.ที่ผ่านมามีคนไทยต้องตายเกือบ 100 คน ทั้งนี้หวังว่าการสูญเสียหมอกระต่ายจะเป็นการจุดประกายในเรื่องนี้ และคิดว่าวันนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนก้าวแรก
นพ.อนิรุทธิ์ สุภวัตรจริยากุล บิดาหมอกระต่ายกล่าวพร้อมเสียงสั่นเครือว่า ในนามของครอบครัวเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสะเทือนขวัญของคนทั้งประเทศและของครอบครัว เป็นความเศร้าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนที่เรารัก เป็นเรื่องช็อกสำหรับครอบครัว ความจริงที่ปรากฏคือมีตำรวจขี่รถบิ๊กไบค์แบบบ้าระห่ำ ไม่สนใจทางม้าลาย ทางเดินที่ควรจะเป็นที่ปลอดภัยของคนข้ามกลับไม่ใช่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องประมาท แต่เป็นเรื่องความบ้าระห่ำไม่สนใจว่าใครจะเป็นจะตาย ซึ่งการพิจารณาโทษไม่ควรเป็นแค่เรื่องประมาท
“หลังจากมีกระแสรณรงค์เรื่องความปลอดภัยจากหลายหน่วยงาน ตนรู้สึกดีใจที่หลายฝ่ายสนับสนุนพร้อมย้ำโทษขับรถชนคนตายไม่ใช่เรื่องประมาทบางครั้งเหมือนจงใจ ควรเป็นโทษที่สูงสุด ซึ่งไม่แน่ใจว่าโทษปัจจุบันเหมาะสมหรือไม่ นอกจากนั้นการรณรงค์เรื่องการขับขี่เป็นเรื่องที่สำคัญ ควรมีการปลูกฝังตั้งแต่เด็ก สุดท้ายอยากให้การสูญเสียครั้งนี้เป็นบทเรียนที่ผู้คนต้องจดจำและทำสังคมเราให้ดีขึ้น อย่าให้ทางเท้าที่ควรจะปลอดภัยเป็นเช่นนี้เลย” นพ.อนิรุทธิ์ กล่าว