เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามประกาศ ศธ. เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของ ศธ.หลังจากก่อนหน้านี้ได้กำหนดให้บุคลากรของแต่ละหน่วยงานในสังกัดและในกำกับของ ศธ.ปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย โดยให้จัดบุคลากรหมุนเวียนมาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ทำงานในแต่ละวันทำการไม่เกินร้อยละ 10 ของบุคลากรทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 1-31 ก.ค.นั้น แต่เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิดยังมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภูมิภาคหลายจังหวัด รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร อีกทั้งนายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และยกระดับความเข้มข้นของมาตรการและการบังคับใช้อย่างจริงจังเพิ่มเติมขึ้น

ปลัด ศธ.กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้จากข้อกำหนดที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้า เพื่อเร่งแก้ไขและบรรเทาสถานการณ์ฉุกเฉินให้คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ศธ.ได้ห่วงใยสวัสดิภาพของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดและในกำกับของ ศธ.จึงกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ดังนี้ 1.ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดให้ผู้บริหารของหน่วยงานในสังกัดและในกำกับของ ศธ.มอบหมายงานให้บุคลากรปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนให้ปฏิบัติงาน ณ สถานที่ทำงาน โดยให้คำนึงถึงเป้าหมายการดำเนินงานและผลสัมฤทธิ์สูงสุดของการปฏิบัติงาน และให้ใช้วิธีการอิเล็กทรอนิกส์ให้มากที่สุด เพื่อลดจำนวนและจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทาง สำหรับเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ทำงาน ที่ต้องเดินทางโดยวิธีการขนส่งสาธารณะให้ปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย เว้นแต่ มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอย่างยิ่งและผู้บริหารของหน่วยงานสั่งให้เข้ามาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ทำงาน โดยให้คำนึงถึงเป้าหมายการดำเนินงานและผลสัมฤทธิ์สูงสุดของการปฏิบัติงาน เพื่อให้บริการประชาชนเป็นสำคัญ และ 2.ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง ให้ผู้บริหารของหน่วยงานในสังกัดและในกำกับของ ศธ.ปรับการมอบหมายงานให้บุคลากรปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย ให้มากที่สุด เว้นแต่ มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนให้ผู้บริหารของหน่วยงานนั้นพิจารณาอนุญาตให้มาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ทำงานได้