นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ขณะนี้พัทยาคือเป็นเป้าหมายเดินทาง หรือ Destination ของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2564-2565 ประกอบกับแนวทางของเมืองพัทยา ได้ร่วมส่งเสริมขับเคลื่อนผู้ประกอบธุรกิจ รวมถึงวิสาหกิจชุมชนคนในท้องถิ่นยกระดับรายได้มาตลอด จนถึงปัจจุบันแม้สถานการณ์โควิดยังไม่คลี่คลาย 100% แต่ความรุนแรงของโรคลดลงพอสมควร ประกอบกับเมืองพัทยาตั้งการ์ดสูง ใช้มาตรการเชิงรุกทำให้นักท่องเที่ยวอุ่นใจ พอใจ และสบายใจกับการเข้ามากินช็อปใช้ พักผ่อนในพื้นที่เมืองพัทยา
“ผมเชื่อว่าช่วงเทศกาลตรุษจีนตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 นี้ เป็นอีกวาระสำคัญทำให้บรรยากาศเมืองพัทยาคึกคัก เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศมาทำบุญไหว้พระ พักผ่อนทั้งริมชายหาดและบนเกาะต่างๆ เมืองพัทยา เราพร้อมยกระดับมาตรการดูแลอย่างทั่วถึงเข้มข้น ตามนโยบายของศบค.ที่กำหนดให้เมืองพัทยาเป็นพื้นที่ Blue Zone สำหรับคนไทยและเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลงทะเบียนได้ทั้ง 2 รูปแบบคือ Test&Go และ Sand Box”
ทั้งนี้ มาตรการศบค.กำหนดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลงทะเบียนในระบบ Test & Go ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.นี้เป็นต้นไป ภายใต้หลักเกณฑ์ 5 ข้อ คือ 1.เข้าได้ทุกประเทศ 2. ตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง 3. พักรออยู่ในที่พักจนได้รับผลตรวจ 4. ทำประกันภัยโควิด และ 5. ถ้ามีการแพร่ระบาดมากขึ้นให้ปรับมาใช้ระบบพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว Sandbox นอกจากนั้น ยังผ่อนปรนให้นักท่องเที่ยวสามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารที่อยู่ในพื้นที่สีฟ้า 8 จังหวัดนำร่องจนถึงเวลา 23.00 น. แต่จะต้องเป็นร้านอาหารที่ผ่านมาตรฐาน SHA+ หรือ Thai Stop Covid-19 และมาตรการ Covid-19 Free Setting เท่านั้น
นายสนธยา กล่าวอีกว่า รายได้หลักของเมืองพัทยาถือว่าน่าพอใจมาก ตั้งแต่ก่อนการแพร่ระบาดของโควิดโอมิครอนช่วงเปิดเมือง 1 พฤศจิกายน 2564 เรามีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 10% ของนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศไทยทั้งหมด พัทยายังคงเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญ มีการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ จัดกิจกรรมอีเวนต์ใหญ่มากระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ทั้งโรงแรม รีสอร์ท โฮมสเตย์ ไปจนถึงพ่อค้าแม่ค้าริมชายหาดและตลาดสดต่างๆ ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าดีใจที่เงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น หลังจากวิฤตโควิดส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตมานานนับปี
“ผมคิดว่าโจทย์ที่ท้าทาย ณ ขณะนี้คือ เราจะทำอย่างไร จะอยู่อย่างไร และจะบริหารจัดการอย่างไร เพื่อตอบสนองให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ ใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย ท่องเที่ยวอย่างปลอดโรค และมีรายได้พอประมาณตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ จนกว่าโควิดจะยุติการระบาดลงไปและกลายเป็นโรคประจำถิ่นเหมือนดังที่กระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์เอาไว้”
นายกเมืองพัทยา ระบุว่า หลังจากเทศกาลตรุษจีน 2565 แล้ว พัทยาเตรียมทยอยจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแบบระมัดระวังและค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากเทศกาลเดินกินถิ่นนาเกลือ พร้อมจัดในวันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 ทั้งนี้ มหกรรมอาหารและวัฒนธรรมท้องถิ่นดังกล่าวจะมีต่อเนื่องรวม 4 ครั้ง ตลอดสุดสัปดาห์ของเดือนกุมภาพันธ์ โดยยังรักษามาตรการควบคุมการแพร่ระบาดเข้มข้นเหมือนเดิม ตั้งแต่จุดตรวจก่อนเข้างาน บริเวณการจัดงาน และในพื้นที่งาน ตามนโยบายของศบค. เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถจับจ่ายซื้อสินค้ากันได้อย่างสบายใจและปลอดภัย