เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ สุดยอดควอเตอร์แบ๊ก พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ประกาศเลิกเล่นอย่างเป็นทางการแล้ว หลังโลดแล่นอยู่ในศึกอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล สหรัฐ มาอย่างยาวนานถึง 18 ฤดูกาล

โรธลิสเบอร์เกอร์ แย้มเป็นนัยว่า อาจจะตัดสินใจอำลาวงการ หลังเกม ไวล์ด-การ์ด เพลย์ออฟ นัดที่ สตีลเลอร์ส บุกพ่าย แคนซัส ซิตี ชีฟส์ ขาดลอย 21-42 เมื่อวันจันทร์ที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น “บิ๊กเบน” จึงประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า จะไม่กลับมาลงเล่นอีกแล้วในฤดูกาลหน้า

โรธลิสเบอร์เกอร์ กล่าวว่า “มันถึงเวลาที่ผมจะต้องเคลียร์ล็อกเกอร์ แขวนรองเท้า และกลับไปเป็นทุกอย่างที่ผมสามารถจะเป็นได้ให้กับภรรยา และลูก ๆ ของผมต่อไปแล้ว ถึงเพื่อนร่วมทีมทุกคน และมิตรภาพไม่รู้จบที่ผมได้รับมา ผมรู้สึกประทับใจในตัวพวกคุณ และประทับใจในความภักดีที่เรามีต่อการสวมชุดสีดำทองด้วยความภูมิใจ และเป็นเกียรติร่วมกัน”

“ถึงสตีลเลอร์ เนชัน กองเชียร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการกีฬาทั้งมวล ผมขอขอบคุณสำหรับการยอมรับ และสนับสนุนผมในฐานะควอเตอร์แบ๊กของพวกคุณมาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟุตบอลคือของขวัญ และขอบคุณพระเจ้าที่ทรงอนุญาตให้ผมได้เล่นฟุตบอล ขอบคุณที่ทำให้ผมมีคนดี ๆ อยู่ร่ายรอบตัว และปกป้องผมมาจนกระทั่งถึงวันสุดท้ายด้วยความรัก และเกียรติยศ” “บิ๊กเบน” ทิ้งท้าย

โรธลิสเบอร์เกอร์ ซึ่งติดทีมโปรโบว์ล 6 ครั้ง ถูก สตีลเลอร์ส เลือกเข้าสู่ทีมในการดราฟท์ตัวผู้เล่นรอบแรกเมื่อปี 2004 และลงเล่นกับ “คนเหล็ก” เพียงทีมเดียวตลอดทั้งอาชีพ โดยพาทีมเข้าสู่ซูเปอร์ โบว์ลได้ 3 สมัย และคว้าแชมป์มาครองได้ 2 ครั้งในปี 2006 กับ 2009 โดยทำสถิติเป็นควอเตอร์แบ๊กอายุน้อยที่สุดที่คว้าแชมป์ซูเปอร์ โบว์ล มาครองได้สำเร็จในปี 2006

นอกจากนี้ จอมทัพวัย 39 ปี ยังครองสถิตินำทีมคว้าชัยได้มากที่สุดในประวัติของสตีลเลอร์สถึง 165 นัด, ขว้างบอลทำระยะได้มากที่สุด 64,303 หลา, ขว้างทัชดาวน์มากที่สุด 420 ครั้ง, ขว้างบอลเข้าเป้ามากที่สุด 5,469 ครั้งจากความพยายามมากที่สุด 8,487 ครั้ง และมีเปอร์เซนต์ขว้างเข้าเป้าสูงสุดถึง 64.5 เปอร์เซนต์.

ภาพ REUTERS