ถือเป็นข่าวใหญ่ของงาน JAPAN EXPO THAILAND 2022 เมื่อ “กุ้ง” ศรุดา นิ่มพิทักษ์พงศ์ ดีไซเนอร์ และที่ถือว่าเป็นผู้สร้างไฮไลท์ให้กับงานในทุก ๆ ปีตั้งแต่การจัดงาน Japan Expo Thailand ครั้งแรก ได้ประกาศว่างานแฟชั่นโชว์ที่กุ้งจัดเป็นประจำทุก ๆ ครั้ง แต่ในปีนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะทำคอลเลคชั่นในงานนี้ จะขอพักเบรกไปก่อน สาเหตุเพราะมีปัญหาหลาย ๆ อย่างที่ไม่ตรงกันเหมือนเดิม

สำหรับแฟชั่นโชว์ MUGEN STYLE COLLECTION ประจำ JAPAN EXPO THAILAND 2022 มีเหล่านายแบบนางแบบกว่า 40 ชีวิตมาร่วมเดินแบบ นำทัพโดย “นนน” กรภัทร เกิดพันธุ์, บี้ เดอะ สกา ยูทูปเปอร์คนดัง, “บาส” สุรเดช พินิวัตร์, “คอปเตอร์” ภานุวัฒน์ เกิดทองทวี, 4 MIX วง LGBTQ วงแรกของไทย, “ก้าวหน้า” กิตติภัทร แก้วเจริญ, “เทอร์โบ” ชนกชนม์ บุญมานะวงศ์, “นาวลิ้ม” ญาตาวี ลิ้มศิริโพธิ์ทอง, “รุ้ง” นิธินันท์ บัณฑูรประยุกต์, “ไข่มุก” ชนัญญา เลิศวัฒนามงคล, “เหมเหม่” จุฑาภัส จำปาวัน ฯลฯ

โดย กุ้ง-ศรุดา ได้ให้สัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะ “บันเทิงเดลินิวส์” ถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า “มีปัญหาเรื่องทัศนคติที่ไม่ตรงกันบางอย่าง ก็เลยตัดสินใจว่านี่อาจเป็นแฟชั่นโชว์สุดท้ายที่ JAPAN EXPO THAILAND แต่หากในอนาคตสามารถปรับจูนกันได้ ก็มีโอกาสที่จะกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งค่ะ สำหรับแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ เป็นการปิดโชว์สุดท้ายที่สมศักดิ์ศรี และประทับใจมาก ๆ เหนื่อยมาก ทำเต็มที่มาก อย่างชุดของน้องนินจา 4MIX (จารุกิตติ์ คำหงษา) ชุดมันไม่เข้าที่ ไม่ลงตัว ต้องมีการปรับแก้ไข ซึ่งต้องทำให้เสร็จในวันเดียวก่อนถึงวันงาน กุ้งเย็บเองด้วย ทำสุดลมหายใจของตัวเองจริง ๆ แทบไม่ได้นอนกันเลยก่อนโชว์”

ไม่เสียดายเหรอที่จะจัดเป็นครั้งสุดท้าย
“เต็มอิ่มแล้วคะ ยังรักญี่ปุ่น ยังรักงานนี้เหมือนเดิม ทีมแรกที่จัดงาน JAPAN EXPO Thailand ก็มี กุ้ง, ยูริ (ยุพเรศ เอกธุระประคัลภ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จี-ยู ครีเอทีฟ) และ โทโมมิ (โทโมมิ โคบายาชิ รองประธาน บ.จี-ยู ครีเอทีฟ) 3 คน ที่เหลือมาใหม่หมด แต่ว่ามันไม่เหมือนเดิมในหลาย ๆ เรื่อง ยังรักที่จะทำงานนี้อยู่ เพียงแต่ถ้าทัศนคติไม่ตรงกัน ขอพักไปก่อนดีกว่า เราเป็นโชว์ไทยโชว์เดียวที่ได้ขึ้นเมนสเตจ เป็นตัวแทนคนไทย ทุกครั้งที่ทำ เหมือนเป็นโชว์สุดท้ายเสมอ จัดเต็มทุกปี แต่คุณค่ามันลดลงไปเรื่อย ๆ ทุกปี แต่ครั้งนี้ภูมิใจมาก มีคนมาชมเยอะมาก ถึงแม้จะไม่ได้ทำแฟชั่นโชว์แล้ว แต่กุ้งยังช่วยงานเบื้องหลังอยู่ ไม่ได้หายไปไหน แค่อาจไม่ได้ออกเบื้องหน้าเหมือนเดิมเท่านั้นเองค่ะ”

คอนเซปต์ของแฟชั่นโชว์ครั้งนี้
“ก่อนทำโชว์ทุกครั้ง กุ้งจะมีการเซอร์เวย์ด้วยการทำเสื้อผ้ามาใส่เองก่อนให้คนเห็น แล้วรอฟังฟีดแบ๊กจากทุกคนที่เราได้เจอ เป็นการเซอร์เวย์ว่าใส่แล้วคนรู้สึกยังไง ส่วนโชว์ครั้งนี้ มีเพื่อนคนหนึ่งเป็นเพื่อนสนิท ก็คือ บูม Cat Radio (บรกรณ์ หลงสวาสดิ์ Chief Creative & Marketing Officer Cat Radio) บอกว่าพี่กุ้ง เสื้อตัวนี้ต้องทำขาย มันน่ารักมาก ตอนนั้นกุ้งใส่ไปสวัสดีปีใหม่เขา แสดงว่ามันโอเคแหละ เพราะปกติบูมไม่เคยชมเวลากุ้งแต่งตัวอะไรเลย ถ้าเขาทัก ทำให้กุ้งมั่นใจว่า หมีนี่แหละ มันจะรอดแหละ มันน่าใส่ มันมีความฮัปปี้ เหมือนเสื้อฮัปปี้ที่คนญี่ปุ่นเค้าใส่กันในวันเทศกาล มันเป็นฮัปปี้ในสไตล์กุ้ง ก็เลยเอามาแตกยอดออกไป ก่อนหน้านี้ในงาน Japan Expo Thailand กุ้งจะเป็นคอนเซปต์ HARAJUKU IN BANGKOK ตั้งแต่ปีแรกจนถึงปีที่ 4 และปีที่ 5-6 ถึงเริ่มมี MuGen เกิดขึ้นมาคะ ในปีนี้เราก็เลยย้อนกลับไปที่ HARAJUKU IN BANGKOK อีกที สำหรับคอลเล็คชั่นที่เดินโชว์ไป แบ่งออกเป็น 3 คอลเล็คชั่น ประกอบไปด้วย SARUDA แบรนด์ใหม่ของกุ้งที่จะเปิดตัวในอนาคต, MUGEN และ BLK BTL (Black Beetle) ซึ่งเป็นของกุ้งกับฮิวโก้ (จุลจักร จักรพงษ์) นำเอา 3 แบรนด์มามิกซ์แอนด์แมตช์กันอยู่ในโชว์ ซึ่งเป็นผลงานของกุ้งทั้งหมด”

อุปสรรคของแฟชั่นโชว์ครั้งนี้
“ทุกครั้งตั้งแต่ปีที่ 1 ยันปีที่ 7 กุ้งจะมีเมนโมเดล จะมีโมเดลคู่ใจที่รู้ใจกัน เค้าจะรู้ว่าเราต้องการอะไร 6-7 คน แต่ปีนี้เหลือคนที่เป็นเมนน้อยมาก ทุกคนที่เดินด้วยกันเกิน 5 ปีเหลืออยู่คนเดียวเลย นอกจากนั้นจะอยู่ในระดับ 4 ปีลงมา ก็มี บาส-สุรเดช พินิวัตร์ ที่ได้เดิน 4 ปีเต็ม ๆ ก็จะเข้าใจว่ากุ้งต้องการอะไร นอกนั้นต้องอธิบายใหม่หมด กุ้งถือว่าเป็นอุปสรรค การเดินกับกุ้งถือว่ายาก เพราะทุกคนต้องออกไปแอ็คติ้ง มันมากกว่าการเดินแบบ เราไม่ได้ต้องการแค่เดินแบบ เค้าต้องเล่าเรื่อง ต้องเอ็นเตอร์เทนต์คนดูด้วย จริง ๆ โชว์กุ้งไม่ได้เน้นขายเสื้อผ้า ไม่ได้มองว่าทุกคนดูแล้วต้องอยากใส่เสื้อเรา แต่สิ่งที่ต้องการคือให้คนดูมีความสุข มีรอยยิ้ม รวมถึงแฟนคลับที่มาดูน้อง ๆ ที่เราพามาเดิน ต้องได้เห็นความน่ารักของน้อง ๆ อย่างเต็มที่ แล้วมีความสุขกลับไป”

มีคนพูดว่าเพราะมีงาน Idol Exchange ก็เลยจะเลิกจัดแฟชั่นโชว์ที่นี่
“การที่คนมองว่ากุ้งตัดสินใจแบบนี้ เพราะมีงาน Idol Exchange ของตัวเองจัดทุกเดือนอยู่แล้ว จริง ๆ ไม่ใช่เลย ถึงแม้กุ้งจะไปจัดงาน Idol Exchange แต่ไม่ได้คิดว่าเป็นคู่แข่งกัน เป็นงานซัพพอร์ตกันมากกว่า เพื่อคัดกรองคนดี ๆ มาไว้ร่วมงาน JAPAN EXPO THAILAND มากกว่า และประเด็นที่ทำ เพราะอยากช่วยสนับสนุนไอดอลและศิลปินไทยที่เป็น Soft Power ที่ไม่ได้อยู่ค่ายใหญ่ ๆ ได้มีเวทีมีพื้นที่แสดงความสามารถ ซึ่งเป็นคนละนโยบายกับ JAPAN EXPO THAILAND อยู่แล้ว”

ปกติจะมีดารา-เซเล็ปมาเดินแฟชั่นเยอะมาก แต่ตอนนี้มีไอดอลเยอะมาก เพราะอะไร?
“พอเราได้มาทำงานกับไอดอล มันทำให้เราตกหลุมรักไอดอลไปแล้ว ก็เลยอยากทำงานกับคนที่เรารัก คนที่เราหลงใหลในช่วงนี้ อยากให้โอกาสเขา อยากให้ไอดอลมีรายได้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากกิจกรรมเชกิ นอกเหนือจากกิจกรรมที่บูท อยากให้เขามีงานเพิ่มขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น อยากให้คนหันมามองไอดอลมากขึ้น อยากให้เขามีอาชีพอื่น ไม่ใช่รอแต่ถ่ายรูป เผื่อคนอื่นจะมองเห็น ในความสามารถของพวกเค้าจะได้เติบโตไปทำงานอื่น ๆ ที่เค้ารักและตามฝันของเค้ากันต่อคะ”

พูดถึงแบรนด์ใหม่ SARUDA ที่เป็นชื่อของตัวเอง
“ได้เวลาที่จะต้องเป็นตัวเอง ยังไม่เคยทำแบรนด์ชื่อตัวเองเลย น่าจะเป็นแบรนด์สุดท้ายของกุ้งแล้ว ในอนาคตจะทำออกมาขาย และจะมี POP UP ในที่ ๆ หนึ่งแน่นอน จะขายเป็นซีซั่น เป็นเสื้อผ้าที่จะสนุกมาก ทุกคนสวมใส่ได้ ราคาถูก จับต้องได้ เป็นเสื้อที่เห็นแล้วน่าใส่จังเลย ใครก็ใส่ได้ อยากให้คนเห็นแล้วรู้สึกว่าน่ารักจังเลย อยากมีไว้เป็นเจ้าของ”

จะเปิดตัวเป็นทางการเมื่อไหร่?
“จะทำเป็นฟลูคอลเล็คชั่น SARUDA ต้องมีแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่สื่อถึงแบรนด์นี้ ต้องหาคน ๆ นั้นให้เจอ เหมือนเป็นแรงบันดาลใจให้เรา แล้วเราก็เอามาทำต่อยอด กุ้งก็นึกถึงตัวเองคนแรกก่อน แล้วก็ใครที่เป็นครอบครัวของกุ้ง กุ้งจะคิดแบบนี้สำหรับคอลเล็คชั่นนี้”

จากนี้ไปจะได้ชมงานแฟชั่นโชว์ของ กุ้ง-ศรุดา ที่ไหนบ้าง?
“จะมีงาน idol Fashion Week ในเดือน มิ.ย. นี้ ที่เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ และจะมีเป็นประจำทุกปี ๆ ละ 2 ครั้ง เพื่อสนับสนุนน้อง ๆ รุ่นใหม่ ๆ ที่ชื่นชอบเกี่ยวกับแฟชั่น ส่วนในอนาคตจะมีแฟชั่นโชว์ที่ไหนเพิ่มเติมอีก คงต้องรอดูและติดตามกันต่อไปนะคะ”

ประมวลภาพงานแฟชั่นโชว์สุดท้ายของกุ้ง-ศรุดาที่งาน Japan Expo 2020