เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลและศธ.ถอนร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติพ.ศ…ออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรโดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  ที่ 19 / 2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีหลักการสำคัญของการคืนอำนาจการบริหารงานบุคคลด้วยการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายตามมาตรา 53 กลับคืนมาให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาในฐานะผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 นั้น เรื่องนี้คงต้องให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้พิจารณาว่าจะตัดสินใจในประเด็นนี้อย่างไรบ้าง เพราะเท่าที่ทราบร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมีแนวทางปฎิบัติเรื่องอำนาจการบริหารงานบุคคลอยู่หลายรูปแบบ

ปลัดศธ.กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ในร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติพ.ศ..ได้กำหนดโครงสร้างอำนาจการบริหารงานบุคคลให้อยู่ในรูปแบบอ.ก.ค.ศ.จังหวัด ซึ่งมีองค์ประกอบของผู้แทนผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ร่วมด้วย ซึ่งไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีความเป็นธรรมเกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาการแก้ไขอำนาจการบรรจุและแต่งตั้งก่อนมีคำสั่งหัวหน้าคสช.นั้นมีเรื่องร้องเรียนถึงการโยกย้ายที่ส่อเป็นการเรียกรับผลประโยชน์เกิดขึ้น นอกจากนี้เมื่อมีการปรับโครงสร้างปฎิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการเกิดขึ้นจนมีศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ศึกษาธิการภาค (ศธภ.) ทำให้การบริหารการศึกษาจะต้องเป็นภาพรวมทั้งจังหวัด ดังนั้นอำนาจการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายจะอยู่ที่กศจ.ดำเนินการ ซึ่งจากการสำรวจการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายในรูปแบบกศจ.พบว่า 5 ปีที่ผ่านมาไม่มีการคอรัปชั่นหรือการวิ่งเต้นเกิดขึ้นจากเรื่องนี้ โดยถือว่าเรื่องดังกล่าวลดลงไปได้อย่างมาก