เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำของกองทัพเรือ พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.)ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา และ ได้ข้อสรุปว่าจะถอนโครงการดังกล่าวออกไประหว่างการชี้แจงคณะกรรมาธิการฯ ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ โดย ผบ.ทร.จะเป็นผู้ประกาศด้วยตนเอง นอกจากนั้นยังรายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้รับทราบแล้ว และตามขั้นตอนจะต้องดำเนินการในชั้นของอนุกมธ.คุรุภัณฑ์ ไอซีที อย่างเป็นทางการด้วย ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ผบ.ทร.มีความตั้งใจจะถอนโครงการฯ ดังกล่าวอยู่แล้ว และจะแจ้งให้ทาง กมธ.ได้รับทราบในการประชุมออนไลน์ พร้อมให้ส่วนที่เกี่ยวข้องไปเจรจากับทางจีนอีกครั้งให้เข้าใจในสถานการณ์ของประเทศไทย
‘กองทัพ’ยอมถอยถอนงบจัดซื้อ ‘เรือดำน้ำปี 65’ออกไปก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับเป็นการชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 ออกไปเป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งแรกเป็นการตัดงบฯ ตามพระราชบัญญัติโอนคืนงบประมาณเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาโควิด -19 วงเงินราว 4,130 ล้านบาท (เป็นงบฯโครงการเรือดำน้ำ 3,375 ล้านบาท) ครั้งที่ 2 ถูกตัดงบฯ ในขั้นคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณปี 2564 วงเงิน3,925 ล้านบาท จากนั้นกองทัพเรือก็ได้รับฟังความเห็นจากรอบด้าน และ ตระหนักถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศในช่วงของสถานการณ์โควิด-19 จึงได้ไปเจรจากับจีนเพื่อขอลดวงเงินผูกผันงวดแรกในการซื้อลำที่ 2 – 3 ลงซึ่งทางประเทศจีนตกลงที่จะให้กองทัพเรือจ่ายแค่ 1ใน3 หรือ 1ใน 4 ทำให้ ปี 2565 กองทัพเรือจึงได้ตั้งงบฯประมาณแค่ 900 ล้านบาท แต่ในที่สุดก็จะต้องถอนโครงการดังกล่าวออกไปหลังจากถูกโจมตีในช่วง2วันที่ผ่านมา
“พิธา”ปลุกส.ส.คว่ำซื้อเรือดำน้ำ ย้ำอย่าดื้อรั้นบนซากศพปชช.
ทั้งนี้โครงการจัดหาเรือดำน้ำจากประเทศจีน 3 ลำ วงเงิน 36,000 บาท โดยดำเนินการจัดซื้อไปแล้ว 1 ลำ ส่วนที่เหลืออีก 2 ลำ ต้องผูกพันงบประมาณในการซื้อเข้าประจำการรวม 22,500 ล้านบาท