สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ว่านายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรมว.การต่างประเทศจีน กล่าวต่อที่ประชุมทางไกลอิเล็กทรอนิกส์ จัดโดยสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงมะนิลา ในสัปดาห์นี้ มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า การอ้างกรรมสิทธิ์เพียงฝ่ายเดียว และการใช้ความต้องการของตัวเองเป็นเครื่องมือข่มขู่อีกฝ่าย ไม่ใช่วิสัยที่เพื่อนบ้านจะใช้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อกัน เพื่อการอยู่ร่วมกันตามวิถีแห่งตะวันออก


ถ้อยแถลงดังกล่าวจากนักการทูตหมายเลขหนึ่งของจีน เกิดขึ้นเพียง 2 เดือน หลังรัฐบาลฟิลิปปินส์ประณามเรือตรวจการณ์ของจีนเคลื่อนเข้ามาปิดเส้นทางเดินเรือของเรือตรวจการณ์ฟิลิปปินส์ บริเวณสันดอน “โธมัสที่สอง” ใกล้กับหมู่เกาะสแปรตลีย์ ในทะเลจีนใต้ และฉีดน้ำใส่เรือของฟิลิปปินส์


เพียงสัปดาห์เดียวหลังเกิดเหตุดังกล่าว กองทัพฟิลิปปินส์ปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัฐบาลปักกิ่ง ให้ย้ายซากเรือรบ “บีอาร์พี เซียร์รา มาเดร” ออกจากแนวสันดอนโธมัสที่สอง โดยกล่าวว่า เรือลำดังกล่าวเกยตื้นเองที่บริเวณนั้น ตั้งแต่ปี 2542 หากทั้งสองประเทศ “มีพันธกรณีร่วมกันจริงในเรื่องนี้” รัฐบาลมะนิลาคงย้ายเรือลำดังกล่าวออกไปนานแล้ว


ทั้งนี้ แนวสันดอนโธมัสที่สองตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งของจังหวัดปาลาวัน ที่อยู่ทางตะวันตกของฟิลิปปินส์ ประมาณ 105 ไมล์ทะเล โดยการที่แนวสันดอนโธมัสที่สองยังตั้งอยู่ในทะเลอาณาเขต ที่ถือเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะ คือห่างไม่เกิน 200 ไมล์ทะเลจากเส้นฐาน กองทัพฟิลิปปินส์จึงเข้าไปประจำการในบริเวณนี้ ตั้งแต่ปี 2541 และใช้เรือบีอาร์พี เซียร์รา มาเดร เป็นฐานประจำการชั่วคราวในอีก 1 ปีต่อมา.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES