สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนูกูอาโลฟา ประเทศตองกา เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ว่า ลอร์ด ฟาตาเฟฮี ฟากาฟานัว ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติของตองกา เผยแพร่แถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์ภูเขาไฟปะทุอย่างหนักหน่วง ในระดับที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เกิดสึนามิซัดเข้าสู่ชายฝั่งตองกา และพื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงได้รับผลกระทบจากเถ้าถ่านของภูเขาไฟ


ปัจจุบัน ระบบการสื่อสารโดยทั่วไปยังคงใช้การได้ไม่ดีนัก และขอบเขตของความสูญเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนยังคงไม่มีความชัดเจน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชาวตองกาต้องการอย่างเร่งด่วน และมากที่สุดในเวลานี้ คือน้ำสะอาดและอาหาร พร้อมทั้งขอให้ชาวโลกร่วมกันอธิษฐานให้ชาวตองกาด้วย


ขณะที่นานาชาตินำโดยนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสองประเทศขนาดใหญ่อยู่ใกล้ที่สุด พยายามหาทางเข้าไปช่วยเหลือชาวตองกา แต่การดำเนินการยังคงยากลำบาก เนื่องจากทัศนวิสัยยังคงย่ำแย่ ขณะที่มีคำเตือนออกมาเป็นระยะว่า สถานการณ์รอบภูเขาไฟยังไม่นิ่งพอ หมายความว่ายังมีโอกาสที่จะเกิดการปะทุขึ้นมาอีก


ทั้งนี้ การปะทุครั้งใหญ่ของภูเขาไฟ ฮังกา-ตองกา-ฮังกา-ฮายาไป ( Hunga-Tonga-Hunga-Ha’apai ) ที่ตั้งอยู่ใต้ทะเล ใกล้กับตองกา เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และใช้เวลา 8 นาที ส่งผลให้เกิดสึนามิขนาด 1.2 เมตร ซัดเข้าสู่ชายฝั่ง โดยความรุนแรงของการปะทุซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนให้ความเห็นไปในทางเดียวกัน ว่ามากที่สุด นับตั้งแต่การปะทุของภูเขาไฟปินาตูโบ ในฟิลิปปินส์ เมื่อปี 2534 มีรัศมีครอบคลุม 260 กิโลเมตร ได้ยินไกลถึงฟิจิ ซึ่งอยู่ห่างจากตองกาประมาณ 800 กิโลเมตร และส่งผลให้เกิดการเตือนภัยสึนามิครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของมหาสมุทรแปซิฟิก.

เครดิตภาพ : REUTERS