หลังจาก คาวาซากิ ฟรอนตาเล มหาอำนาจลูกหนังญี่ปุ่น เจ้าของแชมป์เจลีก 4 สมัย ใน 5 ฤดูกาลหลังสุด ยืนยันคว้าตัว “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ จาก คอนซาโดเล ซัปโปโร เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 ม.ค.65

ชนาธิป กล่าวหลัง ฟรอนตาเล ประกาศอย่างเป็นทางการในการคว้าตัวไปร่วมทัพว่า ตอนที่ฟรอนตาเลติดต่อมาคิดว่าคงเห็นอะไรในตัวบางอย่าง ซึ่งตอนที่คุยกันก็ได้ถามเรื่องนี้ ทางฝั่ง ฟรอนตาเล บอกว่าจากการเสาะหาข้อมูลแล้ว เจเป็นนักเตะที่ดีที่สุด อยากได้ตัวเพราะคิดว่าจะทำให้ทีมแกร่งกว่าเดิม

“ซาบซึ้งและดีใจ เป็นเกียรติอย่างมากที่จะได้ไปอยู่ในทีมที่ดีที่สุด เรื่องความกดดันนั้นมันมีอยู่แล้ว แต่เราก็ต้องแสดงศักยภาพให้เห็น ส่วนตัวรับแรงกดดันได้อยู่แล้ว มันอาจจะยากในช่วงแรก เพราะต้องปรับตัวใหม่หมด”

กัปตันทีมชาติไทย กล่าวด้วยว่า การย้ายทีมครั้งนี้ไม่ได้ปรึกษากับใครเลย ตั้งแต่ได้รับข้อเสนอจนคุยจบ นอกเหนือจากเอเย่นต์ส่วนตัวกับ “ทิซัง” นายทิวาพล สังขพันธ์ ที่เป็นล่าม ไม่ได้บอกพ่อก้องภพ สรงกระสินธ์ เพราะกลัวว่าจะไปคุยกับคนอื่นต่อ ไม่อยากให้เป็นข่าวหลุดจากฝ่ายตน รวมถึงเพื่อนๆ ในแคมป์ทีมชาติก็ไม่ได้บอก ทุกคนมารู้ตอนที่ญี่ปุ่นออกข่าวพร้อมกัน

ชนาธิป กล่าวถึง ต้นสังกัดใหม่ ฟรอนตาเล ว่า เน้นการต่อบอลเร็ว เล่น 1-2, ใช้ช่องว่างในการเข้าทำ ยืนกันไม่ห่างมาก การวิ่งเฉลี่ยจะพอๆ กันทั้งทีม ส่วนตัวก็คงจะไปในแบบที่ตัวเองเป็น ช่วงแรกอาจยาก เพราะไม่ชินระบบแต่ถ้าปรับตัวได้ ก็คิดว่าน่าจะมีศักยภาพมากพอทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น เป้าหมายแน่นอนว่าอยากได้แชมป์

“ผมคุยกับซัปโปโรจริงๆ พวกเขาอยากให้อยู่ต่อ อยากให้เป็นตำนานของทีม ตัดสินใจยาก แต่ก็ตัดสินใจแน่วแน่ว่าถึงเวลาที่ต้องไป ตลอด 4 ปีครึ่ง-5 ปี ผมมีความสุข เป็นเหมือนบ้าน ไปที่ไหนก็มีแต่คนรัก แต่เรื่องของฟุตบอล ผมมาเพื่อคนรุ่นหลัง อยากประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ ตอนอยู่กับซัปโปโรเคยติดเบสต์ 11 มาแล้ว ได้เอ็มวีพีมาแล้ว แต่ในแง่ทีมมันยังไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นถึงเวลาที่ผมต้องไปแล้ว” ชนาธิป กล่าว

เจ้าเจ ยังกล่าวอีกว่า มีการเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว รอแค่เดินทางกลับไปถ่ายภาพเปิดตัว คาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 14-15 ม.ค. ที่จะได้เดินทางกลับไป ขณะที่เบอร์เสื้อนั้นยังบอกไม่ได้ แต่เบอร์ 18 ที่ว่างอยู่มันก็คือเบอร์ของตน ถ้ามีโอกาสก็คงจะได้ใส่

“ความฝันของผมคือเจลีก แม้จะมีหลายคนอยากให้ไปเล่นในยุโรป แต่รู้ตัวดีว่าทีมระดับยุโรปไม่มาสนใจนักเตะไทยอยู่แล้ว สำหรับตัวเองการได้เล่นในเจลีก หรือเคลีก เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และเป็นความฝันสูงสุด ไม่เคยมองไปถึงการเล่นในยุโรปแต่แรกแล้ว ส่วนนักเตะไทยคนอื่นๆ คิดว่ามีหลายคนที่ไปได้ อยู่ที่โอกาส ถ้าให้เลือกตอนนี้คิดว่า เช็ค-สุภโชค สารชาติ น่าจะเป็นคนที่พร้อมที่สุด”

ด้าน “พ่อจุ้ง” ก้องภพ สรงกระสินธ์ บิดาของชนาธิป กล่าวว่า ดีใจกับลูกชายและขอให้ตั้งใจกับเป้าหมายใหม่ นำ คาวาซากิ ฟรอนตาเลคว้าแชมป์เจลีกให้ได้