ความฝันในการสร้าง “เมืองอัจฉริยะ” (Smart City) นั้นเป็นจริงได้ ด้วยการนำเทคโนโลยีชั้นสูงมาอำนวยความสะดวก เหมือนอย่างในประเทศชั้นนำของโลก ที่ทุกอย่างได้รับการเชื่อมโยงกันผ่านระบบฐานข้อมูล นำไปสู่การปรับปรุงสร้างสังคมที่ลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อให้มีระบบคมนาคม การจัดการพลังงาน ระบบบริการของเมืองที่ดี และระบบสาธารณสุขอัจฉริยะ เรื่อยไปจนถึงจัดการบ้านอัตโนมัติ โรงงานอัจฉริยะ และเกษตรกรรมอัจฉริยะ เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเวทีสาธารณะว่าด้วยหลักนิติธรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืน ครั้งที่ 10 (The 10th Public Forum on the Rule of Law and Development: Resilient Leaders in Action) โดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) จัดให้ผู้เรียนหลักสูตร RoLD Program (Rule of Law and Development Program) อันประกอบด้วยผู้คนหลากหลายแวดวงและช่วงวัย มาร่วมระดมความคิดหาหนทางแก้ไข ปัญหาความเหลื่อมล้ำและความเป็นธรรมในสังคมไทย โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่าง ๆ มาช่วยแนะแนวทาง และนำเสนอผลงานการศึกษา เพื่อพัฒนาเมืองอัจฉริยะในอนาคตร่วมกัน
เทคโนโลยีส่งเสริมโอกาสเข้าถึงความเป็นธรรม
ปัญหาความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรม ที่แฝงฝังอยู่ในมิติต่าง ๆ ของสังคมไทยมาเนิ่นนาน ถูกขับเน้นและนำออกมาตีแผ่ให้เห็นชัดเจน ในช่วงวิกฤตการณ์ระบาดของโควิด-19 เมื่อการจัดการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนต่าง ๆ มีความติดขัดในเรื่องการประสานงานหรือฐานข้อมูลสำหรับผู้ปฏิบัติงาน
แนวคิด “เมืองอัจฉริยะ” (Smart City) ถือเป็นอีกแนวทางที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในคุณภาพชีวิตของผู้คนได้ นายเลิศรัตน์ รตะนานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และผู้เข้าร่วมหลักสูตร RoLD2020: The Resilient Leader และได้ดำเนินโครงการศึกษาเรื่องแนวคิดการพัฒนาเมืองและคุณภาพชีวิตด้วยเทคโนโลยี (Open Data & Technology for Better Living) เพื่อค้นหาวิธีสร้างฐานข้อมูลและวางกลไกการรวมศูนย์ข้อมูล ที่จะช่วยการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่โลกดิจิทัล ของพื้นที่นำร่องจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและธุรกิจ มีความปลอดภัยสูง และลดโอกาสการเกิดอาชญากรรม
รศ.ดร.สุพันธุ์ ตั้งจิตกุศลมั่น อธิการบดี มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล อธิบายถึงหลักกว้างๆ ของ Smart City ว่าเป็นเมืองที่มีเทคโนโลยีมีระบบต่าง ๆ ที่ดี ทั้งการจราจร การบริหารพลังงาน อุตสาหกรรม เกษตรกรรม มีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ มีความเป็นอัตโนมัติ เพื่อให้บริการที่ดี และมีหลักธรรมาภิบาล
จากการลงพื้นที่ของผู้เข้าร่วมหลักสูตร RoLD2020 พบว่าปัญหาที่ประชาชนในพื้นที่ต้องการแก้ไขปรับปรุงมากที่สุด คือการได้รับการดูแลความยุติธรรม มีการบริหารจัดการที่ดี ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทุกอย่างนี้หากทำได้ก็จะพัฒนาได้อย่างยั่งยืน ทำให้คนในเมืองใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข สงบ และปลอดภัย สามารถพัฒนาเมืองต่อไปได้
พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน ผู้บังคับการกองตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงปัญหาด้านอาชญากรรมว่า หลังจากลงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่าประชาชนจะมีความสุข หากเมืองปลอดภัย โดยได้ข้อมูลจากหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือหลายหน่วยงาน
ปัญหาหลักที่พบในจังหวัดเป็นปัญหาอาชญากรรม 3 กลุ่ม คือยาเสพติด จราจร และความเดือดร้อนที่ไม่ใช่คดีอาญา อันได้แก่ร้องเรียนเรื่องต่าง ๆ ที่หากไม่สามารถตอบสนองได้ สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญ คือการขาดการเชื่อมโยงข้อมูลและการติดตามผลระหว่างหน่วยงาน ดังกรณีศึกษาพื้นที่นำร่อง พบว่าเราสามารถใช้ประโยชน์ “Data” ด้วย
- Ticketing System รับเรื่องร้องเรียนเป็นระบบไปส่วนกลาง มีการเฝ้าติดตามระยะเวลาการดำเนินการตามที่คาดหวัง
- AI Chatbot ช่วยตอบคำถามเบื้องต้นแก่ประชาชน ที่ต้องการใช้บริการมากกว่าจำนวนเจ้าหน้าที่
- Social Listening รับฟังเสียงสะท้อนในโลกออนไลน์ โดยมีการแยกกลุ่มว่าเป็นเรื่องร้องเรียน เรื่องที่มีความจำเป็นหรือเรื่องเร่งด่วน ก่อนจะกระจายให้ทีมงานร่วมกันดำเนินการ
- Single Page Dashboard ผู้บริหารหรือผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องมองเห็นภาพรวมของปัญหา บอกได้ว่าแต่ละวันจังหวัดพบปัญหาอะไรบ้าง
หากมีการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อสร้างระบบเหล่านี้ขึ้นมาทำงานควบคู่ไป ในจังหวัดจะเห็นว่าเป็นปัญหาด้านไหน ต้องพัฒนาอะไรต่อไปเพื่อแก้ปัญหาในอนาคต และการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
ฐานข้อมูลกระบวนการยุติธรรมที่แม่นยำ
อย่างไรก็ตาม เพื่อนำไปสู่ระบบเมืองอัจฉริยะ ก่อนอื่นต้องเริ่มจากมีฐานข้อมูลกระบวนการยุติธรรมที่แม่นยำ โดยต้องมี Cloud Big Data ในกระบวนการยุติธรรม ในมุมของ ดร.ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ ผู้ก่อตั้งและคณะกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามเมทริกซ์ คอนซัลติ้ง จำกัด มองว่า ข้อมูลที่เรานำมาใช้งานได้ต้องมีลักษณะ :
- ประสิทธิผล ช่วยให้เกิดปัญหาในชีวิตคนเมืองน้อยลง
- ประสิทธิภาพ ทำให้แก้ปัญหาได้เร็ว มีปัญหาแล้วไม่เสียหายเท่าเดิม
- ความไม่เอนเอียง คือคุณภาพของการบริการเท่าเทียมทุกท้องที่ทุกชนชั้น
จากกรณีศึกษาจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้นำข้อมูลจากหลายๆ ด้าน ทั้งข้อมูลร้องเรียน ข้อมูลคดีจราจร และข้อมูลคดีอาญา มารวบรวมให้กลายเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ (Intelligence) ได้ในหลายกรณี เช่น ใช้ข้อมูลเป็น KPI เพื่อวัดผลงานตนเอง และสามารถเจาะลงไปในแต่ละประเภทได้ว่ามีปัญหาอะไรบ้างในเมือง จะได้ใช้ทรัพยากรที่จำกัดได้อย่างเป็นประโยชน์คุ้มค่า
การนำข้อมูลอื่น ๆ มาใช้ประกอบกัน เช่น Hotspot Analysis เพื่อติดตามอุบัติเหตุทางถนน และการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ พบว่ามีการกระจายในหลายพื้นที่ อาจเป็นเพราะแสงสว่างบนท้องถนนไม่เพียงพอ และ Predict Trend เพื่อให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น เช่นบางพื้นที่มีคดีอยู่มากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องเร่งเข้าไปแก้ไข
แนวทางลดความเหลื่อมล้ำในโลกดิจิทัล
การที่ผู้บริหารในทุก ๆ ระดับ นำเทคโนโลยีมาใช้อย่างเหมาะสม ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความเป็นธรรมเท่าเทียมให้กับโลกอนาคต นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย และประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่าหลักคิดที่จะขับเคลื่อนให้สังคมไทยก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน คือความเป็นธรรม (Fairness) ซึ่งไม่ได้หมายถึงเพียงการปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเสมอภาค แต่ต้องคำนึงถึงผลจากการปฏิบัตินั้น ว่าก่อให้เกิดความเท่าเทียมหรือไม่ เพราะต้นทุนหรือบริบทของแต่ละกลุ่มคนและภาคส่วนล้วนแตกต่างกัน
นอกจากการนำแนวคิดและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนาเมือง ตามที่ผู้เข้าร่วมหลักสูตร RoLD2020ได้ดำเนินการศึกษาแล้ว นายผยง ศรีวณิช ยังได้ขยายมุมมองของเรื่องนี้ออกไปประยุกต์ใช้ในมิติที่กว้างขึ้น โดยยกกรณีศึกษาของธนาคารกรุงไทย ที่ดำเนินธุรกิจเพื่อให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งนำเทคโนโลยีจะเข้ามาใช้ใน 4 มิติ ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านกระบวนการยุติธรรม ด้านการศึกษา และด้านสุขภาพ
รวมถึงกรณีศึกษาการใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในกรณีอื่น ๆ เช่น การร่วมกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) และมูลนิธิรักษ์ไทย ในการนำเทคโนโลยีและเครื่องมือทางการเงินไปช่วยเหลือชุมชนคนขับเรือและชาวประมงเกาะเต่าที่ได้รับผลกระทบจากโควิดรุนแรง เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว สร้างพื้นฐานต่อยอดอย่างยั่งยืน ให้ชุมชนและสิ่งแวดล้อมมีโอกาสตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ SDGs ของสหประชาชาติอย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งมีการนำเทคโนโลยี e-donation มาให้ช่วยเหลือชุมชนเกาะเต่า เป็นต้น
“เทคโนโลยีในโลกปัจจุบันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในการเป็นเครื่องมือส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงความเป็นธรรมแก่คนไทยทุกคน ต้องร่วมกันให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยการใช้เทคโนโลยีเสริมสร้างชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น” นายผยง กล่าวสรุป