สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ว่านางโมนีค อีลอยต์ องค์ ผู้อำนวยการองค์การสุขภาพสัตว์โลก (โอไออี) กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์เอ ซึ่งพบมากในสัตว์ปีก จึงเรียกกันจนติดปากว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดนก ว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและแตกแขนงออกเป็นสายพันธุ์ย่อยมากขึ้น ทำให้สถานการณ์ยิ่งน่าวิตกกังวล เพราะสายพันธุ์ที่แตกแขนงออกไป ยังยากแก่การตรวจสอบ
ทั้งนี้ ระหว่างเดือน ต.ค. จนถึง ธ.ค.ปีที่แล้ว โอไอดีได้รับรายงานการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกใน 15 ประเทศตลอดช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนใหญ่ยังคงเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์เอช5เอ็น1 โดยสถานการณ์รุนแรงที่สุดในอิตาลี พบการแพร่ระบาดในฟาร์มสัตว์ปีกอย่างน้อย 285 แห่ง และจำเป็นต้องกำจัดสัตว์ปีกเกือบ 4 ล้านตัว
ปัจจุบัน เชื้อไวรัสเอช5เอ็น1 เป็นสายพันธุ์ของไข้หวัดนกเพียงไม่กี่สายพันธุ์ ซึ่งสามารถติดต่อจากสัตว์สู่มนุษย์ได้ อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้มีการยืนยันผู้ติดเชื้อดังกล่าวแล้วประมาณ 850 คน และครึ่งหนึ่งเสียชีวิต
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนรายงานการพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช5เอ็น6 “จำนวนหนึ่ง” เมื่อปีที่แล้ว ยิ่งเพิ่มความกังวลให้กับหลายฝ่าย เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของเชื้อโรค จนส่งผลให้สามารถติดต่อจากสัตว์สู่มนุษย์ได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการของโอไออียังคงเชื่อมั่น ว่าทุกประเทศมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับไข้หวัดนก และจะสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ได้ หากตรวจพบการแพร่ระบาด พร้อมทั้งย้ำว่า การติดเชื้อของไวรัสชนิดนี้จากสัตว์สู่มนุษย์ จะเกิดขึ้นได้เมื่อเป็นการ “สัมผัสใกล้ชิด” เท่านั้น.
เครดิตภาพ : REUTERS