เมื่อวันที่ 6 ม.ค. นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการ รมว.สาธารณสุข ชี้แจงกรณีมีกระแสดราม่า 2 เรื่อง ซึ่งส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อนายอนุทิน ขอถือโอกาสนี้ ชี้แจงทุกเรื่องไปพร้อมกัน

ประเด็นแรก เรื่องกล่าวหาว่า รมว.สาธารณสุข โทษประชาชน จากการให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 4 ม.ค.แท้จริงแล้ว จุดประสงค์ของท่านต้องการตำหนิผู้ที่ละเลยมาตรการด้านสาธารณสุข จนนำมาซึ่งการระบาดของโควิด-19 และที่ผ่านมา มีปัญหาชัดเจนว่าร้านอาหารกึ่งผับละเลยมาตรการกลายเป็นจุดระบาดที่สำคัญ เป็นเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขกังวลมาก นี่คือเรื่องที่ท่านสื่อสาร แต่กลับมีการนำเสนอ เพื่อชี้ให้เห็นว่าท่านกำลังกล่าวโทษประชาชนทุกคนที่ติดเชื้อ ซึ่งไม่เป็นความจริง ที่ท่านตำหนิคือ พวกที่ไม่มีจิตสำนึกต่อส่วนรวมเท่านั้น

ประเด็นที่สอง โซเชียลมีเดีย เผยแพร่ภาพกิจกรรมการรับประทานอาหาร ซึ่งมีนายเศรณี ชาญวีรกูล บุตรชายของนายอนุทิน ร่วมอยู่ด้วยนำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องมาตรการด้านสาธารณสุขภายในงานปาร์ตี้ปีใหม่นั้น หากดูบริบทในงาน จะเห็นว่าจัดกันในสถานที่เปิดโล่งและที่สำคัญคือ ในงานมีผู้สูงวัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งกว่าจะผ่านการคัดกรองเข้ามาร่วมงานได้ ต้องมีการตรวจอย่างรัดกุมที่สุดมีการตรวจหาเชื้อและต้องยื่นเอกสารยืนยันการรับวัคซีนให้ครบถ้วน เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าผู้สูงวัยนั้นคือกลุ่มเสี่ยงป่วยหนักแม้ได้รับวัคซีนก็ต้องระวังดังนั้นผู้จัดงานไม่ประมาทแน่นอน และกรุณาอย่าเปรียบเทียบกิจกรรมนี้กับการแพร่ระบาดในสถานบันเทิง เพราะมาตรการต่างๆ ในกิจกรรมนี้ มีความเข้มงวดเนื่องจากมีกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่ม 608 ร่วมกิจกรรมอยู่ด้วย

“ปัจจุบัน ร้านอาหารกึ่งผับหลายเจ้า ซึ่งเป็นแหล่งระบาดนั้น ไม่เพียงแต่ละเลยมาตรการ แต่ยังกระทำผิดกฎหมาย ก็ถูกต้องแล้วที่ต้องถูกตำหนิ และควรต้องได้รับโทษ ซึ่งต่างกันอย่างยิ่งกับอีกกิจกรรมที่จัดขึ้น ซึ่งเป็นงานแบบปิด ไม่ได้เปิดให้สาธารณะเข้าร่วม จัดในที่โล่ง รับประทานอาหารเฉพาะครอบครัว มีมาตรการคัดกรองก่อนเข้างานแต่กลับโดนวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งที่เป็นกิจกรรมที่ทำถูกต้อง ตรงนี้ ต้องขอความเป็นธรรมด้วย” เลขานุการ รมว.สาธารณสุข กล่าว