เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ตนได้ประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ซึ่งได้ย้ำให้หน่วยงานในกำกับของศธ.จัดทำงบประมาณให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและนโยบายของศธ. โดยเฉพาะการมุ่งเน้นพัฒนาครูให้มีสมรรถการเรียนรู้ การสร้างห้องเรียนคุณภาพด้วยการเติมสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยแบบครบวงจร เพื่อจะเป็นตัวช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ รวมถึงการแก้ปัญหาเด็กตกหล่น ซึ่งเป็นโครงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างมาก โดยเด็กที่หลุดจากระบบจะนำเข้าสู่ระบบการศึกษาใหม่ได้อย่างไร นอกจากนี้ในการจัดทำงบประมาณปี 2566 ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการศึกษาภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ด้วย ซึ่งจะเป็นการเติมเต็มการพัฒนาคุณภาพการศึกษาหลังวิกฤติโควิด เช่น การจัดแพลตฟอร์มการเรียนรู้วิถีใหม่ การจัดทำสื่อการสอนสำหรับการเรียนออนไลน์ เป็นต้น เพื่อเป็นทางการเลือกในการเรียนรู้ ขณะเดียวกันจะมีเรื่องการปรับปรุงเรื่องบ้านพักครูทั่วประเทศด้วย

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะมีโครงการ “อาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ” ซึ่งโครงการนี้เป็นการช่วยเหลือนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล ยากจน ขาดโอกาสทางการศึกษา ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษามากขึ้น ในลักษณะโรงเรียนประจำ ผู้เรียนได้เรียนฟรี มีที่พัก พร้อมอาหาร โดยไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ซึ่งในปีการศึกษา 2565 จะนำร่องที่ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน โดยโครงการนี้จะเป็นการบูรณการงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2565 ที่เรามีการเบิกจ่ายล่าช้านั้น ได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานแล้วว่าขอให้เร่งเบิกจ่ายงบประมาณและใช้อย่างคุ้มค่า เพราะไม่เช่นนั้นการจัดทำคำขอบงบประมาณปี 66 เราอาจจะโดนตัดงบประมาณอีกได้