โลกของเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา มนุษย์พยายามพัฒนา เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆออกมา เพื่อตอบสนองความต้องการในการดำรงชีวิตของผู้คน
ทำให้ได้เห็นเทนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ได้ใช้งานกัน เปิดศักราชใหม่ปีเสือ เรื่องไอที จะมีอะไรเด่น มาแรง และที่ตกกระแส เอาต์แล้ว…ไปดิดตามกันได้เลย
มือถือจอพับกลับมาแรง
เริ่มกันที่โทรศัพท์มือถือ ปัจจุบันกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ไปแล้ว โดยในปี 65 นี้ มือถือจอพับได้ กำลังกลับมาเป็นเทรนด์ฮิตอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ในช่วง 20 กว่าปีก่อน มือถือยี่ห้อต่างๆ หลายแบรนด์ได้ผลิตมือถือฝาผับตั้งแต่ยุค 2 จี ออกมาแล้วค่อยๆหลุดหายไปจากวงโควจร
จนมาเมื่อสองปีมานี้ ทางซัมซุงได้กลับมาพัฒนามือถือจอพับได้ในตระกูลกาแล็คซี่ในรุ่น Galaxy Z Fold และ Z Flip ซึ่งล่าสุดมาในรุ่น Samsung Galaxy Z Fold3 5G และ Galaxy Z Flip3 5G เรียกว่าเป็นการคืนชีพ มือถือจอพับ ในตลาดอีกครั้ง
ทำให้แบรนด์อื่นหันมาพัฒนามือถือจอพับเพื่อออกขายเช่นกัน อาทิ ออปโป้ เปิดตัว OPPO Find N สมาร์ทโฟนแฟล็กชิพจอพับรุ่นแรก ด้านเสียวหมี่ก็มี Xiaomi Mi Mix Fold และล่าสุดกับ หัวเว่ย ก็ได้ออก HUAWEI P50 Pocket ออกมา ทำให้ในปี 65 จะได้เห็นสมาร์ทโฟนจอพับเพิ่มมากขึ้นแน่นนอน
นอกจากนี้ในส่วนของ 2 แบรนด์ดังคู่แข่งกันอย่างซัมซุงและแอปเปิลก็จะออกสมาร์ทโฟนในรุ่นเรือธง ซึ่ง ตอนนี้ก็มีข่าวลือออกมาต่างๆมากมาย อย่างเช่น ซังซุง S22 Ultra จะมีปากกา S Pen ฝังอยู่ในตัวเครื่องเหมือน เหมือนซัมซุงโน้ต รุ่นก่อนๆ ส่วนฟากแอปเปิลกับไอโฟน 14 ก็จะมากับชิพใหม่ A 16 กล้องมีความละเอียดมากขึ้นถึง 48 ล้านพิกเซล และถ่ายวิดีโอระดับ 8K แต่ข่าวลือก็คือข่าวลือ ทุกอย่างจะกระจ่างแน่ในเร็วๆนี้
5 จี ใช้เป็นรูปธรรม
เรื่อง 5 จี ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเริ่มมีให้บริการเชิงพาณิชย์ในไทยตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยแต่ละค่ายมือถือ ได้แข่งกันขยายโครงข่าย จนเครมว่า ครอบคุมมากกว่า 80-90% ของประเทศแล้ว และได้มีการทดลองยูสเคส นำไปใช้งานด้านต่างๆ มาได้ระยะหนึ่ง ทำให้ในปี 65 จะได้เห็นการนำ 5 จี มาใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งในด้านเกษตร เช่น สมาร์ทฟาร์มมิ่ง ด้านสาธารณสุข กับเรื่อง การแพทย์ทางไกล หรือ เทเลเมดิซีน ด้านการผลิตใช้ 5 จี ในโรงงานต่างๆ เป็น สมาร์ทแฟคตอรี่ ฯลฯ
“เมตาเวิร์ส” ไฮเทคสุดล้ำ
แน่นอนว่าจะได้ยินคำว่า “เมตาเวิร์ส” กันมากขึ้น หลัง เจ้าพ่อโซเซียลเน็ตเวิร์ก อย่าง มาร์ค “มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง เฟซบุ๊ก ที่ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “เมตา”ได้ออกมาประกาศ ให้ความสำคัญกับ “เมตาเวิร์ส” โลกเสมือนจริง
ส่งผลให้เกิดกระแส “เมตาเวิร์ส” ทั่วโลก ทำให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ไอที ไม่ว่าจะเป็น “ ไมโครซอฟท์” บริษัทบันเทิงระดับโลกอย่าง “วอลต์ ดิสนีย์” หรือแม้แต่ บริษัทผู้ผลิต เครื่องกีฬาชื่อดัง อย่าง “ไนกี้” ก็ออกมาประกาศ พัฒนาเมตาเวิร์สของตนเอง ทำให้ในปี 65 นี้ เราจะได้เห็นข่าว หรือความก้าวหน้าด้านเมตาเมิร์สว่าจะมีทิศทางอย่างไร ออกมาอย่างต่อเนื่องแน่นอน
“วิดีโอสั้น” แรงแข่งดุ
หลังจาก”ติ๊กต็อก” แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นได้รับความนิยมไปทั่วโลก ครองตำแหน่งแอพพลิเคชั่น ที่มียอดดาวน์โหลดอันดับ 1 โดยเฉพาะในช่วงการะบาดของโควิด-19 ที่ต้องอยู่บ้านล็อกดาวน์ทำให้คนหันมาเล่น “ติ๊กต็อก” จนเป็นกระแสทั่วโลก ทำให้สื่อโซเซียลอื่นๆต้องมาออกฟีเจอร์ “วิดีโอสั้น” บนแพลตฟอร์มของตัวเองตามกัน ไม่ว่าจะเป็น”ยูทูบ” ที่ออก youtube shorts อินสตาแกรม หรือ ไอจี ในชื่อ Reels และล่าสุดกับ ไลน์ ในชื่อ LINE VOOM
ทำให้มีแนวโน้มแข่งขันเดือดแน่ๆ ในปี 65 เพราะพฤติกรรมคนไทยชอบอะไรที่สนุก และดูคอนเทนต์แบบสั้นๆ โดยเฉพาะข้อมูลจากไอจี ที่ระบุว่า ไทยเป็นประเทศที่มีการสร้างคลิปวิดีโอสั้นเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคนี้ งานนี้ตลาดระอุ ไฟลุกชัวร์
เงินดิจิทัลเข้าสู่ธุรกิจ
ถือเป็นอีกหนึ่งกระแสที่กำลังมาแรง กับเรื่อง “คริปโตเคอเรนซี” หรือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์การลงทุนที่นิยมของคนรุ่นใหม่ มีการเติบอย่างก้าวกระโดด ถือเป็นเครื่องมือใหม่ ที่ช่วยทำให้คนรวยขึ้นใน “พริบตา” ซึ่งในปี 65 ยังจะมาแรงต่อเนื่อง และจะเข้าไปมีบทบาทในธุรกิจต่างๆมากยิ่งขึ้น เห็นได้จากในตอนนี้มีบริษัทต่างๆ ออกมารับคริปโตฯ เพื่อใช้แลกกับสินค้าและบริการของตนเอง แม้ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะยังไม่ให้ใช้คริปโตฯ ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย แต่หากทั้งสองฝ่ายยอมรับความเสี่ยงซึ่งกันและกัน รวมถึงผู้ที่ไปลงทุนในคริปโตฯ ด้วย แต่จากผลตอบแทนที่สูงและเร็ว เชื่อว่าจะทำให้มีคนแห่เข้าไปลงทุนในเหรียญคริปโตฯ เงินดิจิทัลอีกมาก
วินโดว์ส 11 มาแล้ว
กลายเป็นซอฟต์แวร์ “สามัญประจำเครื่อง” คอมพิวเตอร์ไปแล้ว สำหรับระบบปฎิบัติการวินโดว์ส ที่ล่าสุด ทางไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว วินโดว์ส 11 มาแทน วินโดว์ส 10 ที่ทำตลาดมานานกว่า 6 ปี และได้ให้คนที่ใช้วินโดว์ส 10 อยู่ อัปเกรดมาเป็นวินโดว์ส 11 กันแล้ว ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา และสำหรับคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ ที่ลงสู่ตลาดในปี 65 นี้ ก็คงจะติดตั้ง วินโดว์ส 11 ให้เป็นมาตรฐานกันแล้ว ซึ่งในส่วนของ วินโดว์ส 11 ก็ถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายขึ้น ได้นำแถบเมนูมาอยู่กลางจอ ทำให้การเรียกใช้งาน โปรแกรมต่างๆ มีความสะดวกขึ้น มีไมโครซอฟต์ธีมให้ใช้ ทำให้การใช้ทำงานรวมถึง เพื่อเล่นเกม ก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น ฯลฯ
ในส่วนที่กำลังเอาต์ ล้าสมัย ไม่เป็นที่นิยม และน่าจะเฟดออกจากตลาดไปเรื่อยๆ โดยเห็นได้ชัด เริ่มจาก
มือถือ 4 จี เริ่มหายจากตลาด
อย่างที่รู้กันว่า ไทยมี เครือข่าย 5 จี ใช้เป็นประเทศแรกๆในภูมิภาคนี้ทำให้ในปี 64 สมาร์ทโฟนที่รองรับ 5 จี ของแต่ละแบรนด์เริ่มเข้ามาทำตลาดมากขึ้น และมีราคาถูกลงไม่ถึงหมื่นก็สามารถหาซื้อมือถือรองรับ 5 จีได้แล้ว ซึ่งในปี 65 นี้ มีข่าวว่าหลายแบรนด์ก็จะนำมือถือรองรับ 5 จีเข้ามาทำตลาดมากขึ้น ทำให้แน่นอนว่ามือถือที่จะวางตลาดต่อไปจากนี้ จะเป็น 5 จี เกือบทั้งหมด ส่วนมือถือที่รองรับแค่ 4 จี จะเริ่มลดน้อยลง เพราะคนที่จะเปลี่ยนมือถือใหม่ทั้งที! ยังไงก็ต้องเลือกรุ่น ที่รองรับ 5 จี อยู่แล้ว ในเมื่อ “ค่ายมือถือ” ขยายเครือข่าย 5 จี ครอบคลุมเกือบทั่วประเทศแล้ว
ทีวีโดนโอทีทีแย่งเวลา
ในยุคที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นอุปกรณ์ติดตัวที่นอกจากใช้สื่อสารแล้วยังใช้ดูหนังฟังเพลง ทำให้ โอทีที (Over-the-top) ที่เป็นการให้บริการในลักษณะสตรีมมิ่ง ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ด้วยแพลตฟอร์ม หรือโมบายแอพพลิเคชั่น เช่นพวก เน็ตฟลิกซ์, ยูทูบ, เอชบีโอ นาว และดิสนีย์ พลัส ฮอทสตาร์ ฯลฯ ได้แย่งชิงเวลาในการดูทีวีปกติ ของคนไทยไปมาก ส่งผลจำนวนคนดูทีวีแบบดั้งเดิมลดลง เนื่องจากสามารถเลือกชมคอนเทนต์ที่สนใจได้ตลอดเวลา และยังดูย้อนหลังได้ทุกที่ทุกเวลา แค่มีอินเทอร์เน็ตกับสมาร์ทโฟน ค่าบริหารหลักร้อยต้นๆต่อเดือน ทำให้คนใช้เวลาดูทีวีลดน้อยลง โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ๆ ยอมจ่ายเงินค่าสมาชิกเพื่อดูบริการโอทีทีมากขึ้น
กล้องดิจิทัลถูกกลืน
กลายเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ตลาดหดตัวลงทุกปี สำหรับกล้องดิจิทัล โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลคอมแพค หรือกล้องพกพาขนาดเล็กที่เปลี่ยนเลนส์ไม่ได้ เนื่องจากผู้บริโภคได้เปลี่ยนพฤติกรรมการถ่ายภาพจากกล้องดิจิทัล มาเป็นการถ่ายภาพโดยสมาร์ทโฟน ด้วยความสะดวก และสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ได้มีการพัฒนากล้องและฟีเจอร์ ทำให้ถ่ายรูปได้ในขั้นเทพ ไม่แพ้กล้องดิจิทัลเลย ทำให้ปัจจุบันไม่แถบไม่เห็นคนที่พกพากล้องดิจิทัลกันเลย
เมื่อโลกหมุนไว เทคโนโลยีได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โลกไอทีก็ไม่หยุดนิ่งเช่นกัน ทำให้มนุษย์จำเป็นต้องศึกษาเรียนรู้อยู่เสมอเพื่อไม่ให้ตกเทรนด์!!
จิราวัฒน์ จารุพันธ์
